การกำหนดทิศ
การกำหนดทิศ
เมื่อเราอยู่กลางแจ้งและมองไปรอบ ๆ ตัว เราจะเห็นพื้นโลกทอดไกลออกไปจรดขอบฟ้าเป็นรูปครึ่งวงกลม เราเรียกเส้นตัด ระหว่างพื้นโลกกับขอบฟ้าว่า “เส้นขอบฟ้า” (Horizon) เส้นขอบฟ้าเป็นเส้นวงกลมล้อมรอบตัวในแนวราบ เมื่อสังเกตการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ในเวลาเช้า จะเห็นดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าด้านหนึ่ง เรียกว่า “ทิศตะวันออก” และดวงอาทิตย์ จะเคลื่อนที่ขึ้นสูงที่สุดในเวลาประมาณเที่ยงวัน จากนั้นดวงอาทิตย์จะเคลื่อนต่ำลงกระทั่งตกลับขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง เรียกว่า “ทิศตะวันตก” การขึ้น–ตกของดวงอาทิตย์ เกิดจากการหมุนรอบตัวเองของโลกตามแกนเหนือ-ใต้ ดังนั้นการกำหนดทิศทางบนโลก จึงแบ่งออกเป็น 4 ทิศหลัก คือ ทิศตะวันออก (East) ทิศตะวันตก (West) ทิศเหนือ (North) และทิศใต้ (South) โดยทิศทั้งสี่มีความสัมพันธ์กันดังนี้
ภาพที่ 1 เมื่อหันหน้าไปทางทิศเหนือ
• ด้านหลัง เป็นทิศใต้
• แขนซ้าย ชี้ไปทางทิศตะวันตก
• แขนขวา ชี้ไปทางทิศตะวันออก
ภาพที่ 2 เมื่อหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
• ด้านหลัง เป็นทิศตะวันออก
• แขนซ้าย ชี้ไปทางทิศใต้
• แขนขวา ชี้ไปทางทิศเหนือ
ภาพที่ 3 จุดเหนือศีรษะ
จุดสูงที่สุดบนฟ้าจะอยู่เหนือศีรษะพอดี เรียกว่า “จุดเหนือศีรษะ” (Zenith)
จุดเหนือศีรษะทำมุมกับผู้สังเกตการณ์ และขอบฟ้าทุก ๆ ด้าน เป็นมุมฉาก(90°)พอดีการบอกตำแหน่งดาว

ภาพที่ 4 มุมอาซิมุท และมุมเงย
ในการบอกตำแหน่งเทห์วัตถุท้องฟ้า เราบอกด้วยค่ามุมสองชนิด คือ มุมอาซิมุท และมุมเงย
• มุมอาซิมุท (Azimuth) เป็นมุมในแนวราบ นับจากทิศเหนือ ในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ไปยังทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตก และกลับมาทิศเหนืออีกครั้งหนึ่ง มีค่าระหว่าง 0-360 องศา
• มุมเงย (Altitude) เป็นมุมในแนวตั้ง นับจากเส้นขอบฟ้าขึ้นไปสู่จุดเหนือศีรษะ มีค่าระหว่าง 0-90 องศา
จากตัวอย่างในภาพที่ 4 สามารถระบุได้ว่า ดาวมีค่ามุมอาซิมุธ 2500 และมีค่ามุมเงย 500 ระบบอ่านค่ามุมเช่นนี้เรียกว่า “อัลตาซิมุท” (Alt-azimuth) ซึ่งเรามักไปใช้กับการอ่านแผนที่ดาววงกลม
ขอขอบคุณโครงการการเรียนรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์
ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง LESA โครงการวิจัยโดยหอดูดาวเกิดแก้ว , สำนักงานกองทุนกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.),
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิชาการดอทคอมhttp://203.114.105.84/virtual/lesa/index1.htm