Featured post
แนวข้อสอบและเฉลย O-NET วิชาสังคมศึกษาฯ : ศาสนา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ม.3
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
แนวข้อสอบและเฉลย O-NET วิชาสังคมศึกษาฯ : ศาสนา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ม.3
ให้วง ล้อมรอบตัวอักษรหน้าคำตอบที่ถูกต้อง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำอธิบาย : ความรู้ทั้งหมดนี้ นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียน การสอน และการเตรียมความพร้อมในการสอบแข่งขันอื่น ๆ ได้ ตามความเหมาะสม หรือ ท่านครูอาจารย์ที่จัดเตรียมเนื้อหาไม่ทันก็ยังสามารถนำเนื้อหานี้ไปใช้ได้ตามความเหมาะสมครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำขอร้อง : เนื่องจากเนื้อหาทั้งหมดนี้ ครูเดชเป็นผู้รวบรวมและเรียบเรียง ประกอบด้วยการนำความรู้มาแยกวิเคราะห์เพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจได้ง่าย โดยที่ทำเพื่อมุ่งหวังให้เป็นประโยชน์สูงสุดในการเปิดโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนที่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอเน็ตได้ แต่ห่างไกล ได้ใช้ประโยชน์ จึงใคร่ขอความกรุณาท่านที่สนใจจะนำไปใช้ในเว็บไซต์ เว็บบล็อก หรือ เผยแผ่ ในสื่ออนไลน์ โดยใส่เคดิตที่มาด้วยนะครับ
ทั้งนี้ขอเรียนแจ้งว่า ผู้รวบรวมและเรียบเรียงไม่อนุญาตให้นำข้อมูลไปเพื่อผลกำไร ยกแต่ได้ขออนุญาตจากผู้เรียบเรียงแล้วเท่านั้น ครับ
ติดต่อครูเดชเรื่องลิขสิทธิ์ หรือ เชิญติวกวดวิชานอกสถานที่ 084-014-7717 ,094-070-7114
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วีดีโอติวเฉลยข้อสอบโอเน็ตสังคมศึกษา หน่วยศาสนาของชั้น ม.3 นักเรียนสามารถเปิดฟังพร้อม ๆ ลองทำข้อสอบได้ตามด้านนี้ครับ พร้อมคำอธิบายครับ
ให้วง ล้อมรอบตัวอักษรหน้าคำตอบที่ถูกต้อง
1.
การอยู่ร่วมกันของศาสนิกชนหลายศาสนาอย่างสงบสุขควรเริ่มต้นอย่างไร ?
1. เข้าร่วมศาสนพิธีของทุกศาสนา
2. เข้าใจความแตกต่างของแต่ละศาสนา
3. เปรียบเทียบหลักธรรมของแต่ละศาสนา
4. พัฒนาแนวทางการรวมแต่ละศาสนาเข้าด้วยกัน
คำตอบ ข้อที่ 2
การเรียนสังคมศึกษาในหน่วยวิชาศาสนานั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ต้องการให้นักเรียนได้เข้าใจถึงความเหมือนความต่างของแต่ละศาสนา ในคำตอบของแต่ละข้อนั้น บางข้อ มีการยกเว้น
เช่นการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา
บางศาสนาไม่อนุญาต แต่บางศาสนาไม่มีกฎที่เคร่งครัด คำตอบข้อที่ 2 จึงมีความเหมาะสมมากที่สุด
เพราะสอดคล้องกับคำอธิบายข้างต้นแล้วครับ
การเปรียบเทียบศาสนา เป็นสิ่งที่ไม่ควรพึ่งกระทำเลยครับ
เพราะจะส่งผลเสียมากกว่า ส่วนข้อที่ 4 นั้น การพัฒนา สามารถทำได้ครับ
แต่บางครั้งจะมีข้อจำกัด ให้นักเรียนพิจาณาด้วยครับ
________________________________________________
2. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่
หลักความเชื่อหรือหลักปฏิบัติของคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก ?
1. สัญลักษณ์เป็นไม้กางเขนที่มีพระเยซูคริสต์ถูกตรึง
2.
องค์ประมุขของคริสต์ศาสนิกชนคาทอลิกทั่วโลก คือ พระสันตะปาปา
3. ประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ 2 พิธี
คือ พิธีศีลล้างบาปและพิธีศีลมหาสนิท
4.
ยกย่องพระนางมารีอาและยกย่องผู้ทำความดีให้แก่ศาสนาเป็น “นักบุญ”
คำตอบ ข้อที่ 3
ให้นักเรียนใช้ตารางด้านล่างนี้พิจารณาคำตอบร่วมด้วยนะครับ อธิบายเสริม ให้นักเรียนจำไว้ว่า
คริสต์โรมันนั้นมีพิธีศีล 7 อย่างด้วยกัน
พร้อมทั้งในนิกายนี้มีการนับถือและยกย่องพระนางมารี และนักบุญ นอกจากนี้ยังมีการเคารพสัญลักษณ์แทนพระเยซู
คือไม้กางเกงที่มีการตรึงพระเยซู นอกจากนั้น
คาทอลิค เป็นนิกายเดียวที่ขึ้นตรงต่อพระสันตะปาปา
ตารางใช้ในการวิเคราะห์
โรมันคาทอลิก
|
-สัตตะปาปา
-ยึดคำสอนนักบุญเปโตร
-มีนักบวช ห้ามแต่งงาน
-ยกย่องพระแม่มารีย์-โยเซฟ
-มีนักบุญ
-ศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 อย่าง
-ไม้กางเขนรูปพระเยซูตรึง
|
กรีซออร์ทอด็อกซ์
|
-ไม่ขึ้นตรงต่อศาสนาจักร –พระสันตะปาปา
-ไม่มีนักบุญ
-ไม่บูชารูปเคารพ 3 มิติ
-สัญลักษณ์เป็น 2 มิติเท่านั้น
|
โปรเตสแตนต์
|
-ถือพระคัมภีร์ ไม่ขึ้นกับศาสนจักร
-ไม่เชื่อสันตะปาปาและบาทหลวงไถ่บาปได้
-ไม่มีนักบวช มีแต่ผู้สอนศาสนา
-ไม่ยกย่องพระแม่มารีย์ โยเซฟ นักบุญ
-ศีลล้างบาปและศีลมหาสนิทเท่านั้น
-กางเขนไม่มีรูปพระเยซูตรึง
|
________________________________________________
3. หลักปฏิบัติ 5 ประการ
ของศาสนาอิสลามข้อใด ที่มุสลิมอาจเลือกกระทำในลำดับสุดท้าย
โดยรอให้มีความพร้อมทั้งด้านสุขภาพและทุนทรัพย์ก่อน ?
1. การละหมาด
2. การถือศีลอด
3. การบริจาคซะกาต
4. การประกอบพิธีฮัจญ์
คำตอบ ข้อที่ 4
ข้อปฏิบัติที่กล่าวมาในคำตอบทั้งหมดนั้น
เป็นข้อปฏิบัติที่เรียกกันว่า ข้อปฏิบัติ 5 คือหลักปฏิบติของมุสลิมทุกคนที่ต้องถือปฏิบัติ
มีทั้งสิ้น 5 ประการ คือ ถือพระเจ้าองค์เดียว ,ละหมาด 5 เวลา คือ ย่ำรุ่ง บ่าย เย็น พลบค่ำ และกลางคืน ,ศีลอด เดือนรอมฎอน ,ซะกาต
และ ฮัจญ์
หลักปฏิบัติทั้ง 5 ข้อนี้ ข้อที่ 1-4 เป็นข้อปฏิบัติที่ชาวมุสลิมสามารถปฏิบัติกันได้
แม้จะไม่มีความพร้อมมากมายนัก เช่นการเคารพพระเจ้า การละหมาด การถือศีลอด และซะกาต
คือการบริจาคทาน โดยเฉพาะการบริจาคทานนั้น ก็ไม่มีข้อห้ามหรือกฎว่าต้องบริจาคมากมาย แต่ในข้อปฏิบัติที่ 5
นั้นต้องฝช้ทรัพย์สินมาก ดังนั้นผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์
จึงต้องมีความพร้อมทั้งทรัพย์สิน สุขภาพ ครับ
________________________________________________
4.
เหตุการณ์ใดเป็นจุดเริ่มต้นนับศักราชอิสลาม หรือที่เรียกว่า “ฮิจเราะฮ์ศักราช” ?
1. ศาสดามุฮัมมัดประสูติ
2. ศาสดามุฮัมมัดสิ้นพระชนม์
3. ศาสดามุฮัมมัดอพยพไปเมืองมะดีนะฮ์
4.
ศาสดามุฮัมมัดได้รับโองการจากอัลออฮ์
คำตอบ ข้อที่ 3
หิจญเราะหฺ (อาหรับ: هِجْرَة) เป็นการอพยพหรือการเดินทางของนบีมุฮัมมัดและผู้ติดตามจากเมกกะไปยังเมดินา ทริปชวนรู้
การเปลี่ยนศักราชจากพุทธศักราชไปฮิจเราะฮ์ศักราช ใช้ พ.ศ. ตั้ง ลบ 1122 จะเท่ากับปี ฮ.ศ. ครับ
________________________________________________
5. พิธีรับศีลในข้อใดของคริสต์ศาสนาที่เป็นการยืนยันถึงการนับถือคริสต์ศาสนา ?
1. ศีลกำลัง
2. ศีลล้างบาป
3. ศีลอภัยบาป
4. ศีลมหาสนิท
คำตอบ ข้อ 1
ให้นักเรียนพิจารณาดังนี้ครับ
พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิค นั้นมี 7 ศีลด้วยกันคือ -ศีลล้างบาป (ศีลจุ่ม) รับครั้งเดียว บาปกำเนิด
-ศีลกำลัง ยืนยันนับถือศาสนา
-ศีลมหาสนิท มิสซา ขนมปัง เหล้าองุ่น
ระลึกพระกระยาหารมื้อสุดท้าย
-ศีลแก้บาป สารภาพบาป
-ศีลเจิมคนไข้
-ศีลอนุกรม ศีลบวช
-ศีลสมรส แต่งงาน
สรุปความคิด
ให้นักเรียนจำไว้ดังนี้ครับว่า ถ้าเราจะยืนยันการนับถือในศาสนาได้
ต้องมีกำลังศรัทธาในศาสนา “มีกำลัง” ก็ต้อง “ศีลกำลัง” นะครับนักเรียน
________________________________________________
6. วิธีถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลมีการปฏิบัติกันอย่างไร ?
1. จารึกลงในใบลาน
2. จารึกลงในศิลาจารึก
3. ท่องจำด้วยปากเปล่า
4. ท่องจำและบันทึกลงในใบลาน
คำตอบ ข้อ 3
ให้นักเรียนจำดังนี้นะครับว่า
ในสมัยพุทธกาล จะใช้วิธีการจำ หรือ การท่องปากต่อปาก หรือ มุขปาฐะ
แต่เพียงอย่างเดียว เพราะมีพระอรหันต์จำนวนมาก (ท่านมีความจำในธรรมเป็นเลิศ) การเริ่มจดและจารึกนั้น มาในภายหลัง คือ
เมื่อมีการสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ 5 ครับ
ทริปชวนจำ พุทธกาล เล่าท่องพระธรรมปากเปล่า มุขปาฐะ
สังคายนาครั้ง 1-4 ท่องปากเปล่า มุขปาฐะ
สังคายนาครั้งที่
5 เริ่มการจดบันทึกเป็นภาษาบาลี เป็นครั้งแรกของโลก
________________________________________________
7. เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จพระดำเนิน 7
ก้าว สามารถตีความหมายได้ว่าอย่างไร ?
1. พระพุทธองค์จะทำสงความ
ชนะศึกทั้งหมด 7 แคว้น
2.
พระมารดาของพระองค์จะทรงเสด็จสวรรคตในอีก 7 วัน
3. พระพุทธองค์ได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาไปใน
7 แคว้น
4.
พระพุทธองค์จะทรงมีพระธิดาและพระโอรสทั้งหมด 7 พระองค์
คำตอบ ข้อที่ 3
ให้นักเรียนพิจารณาด้วยความเป็นเหตุ
เป็นผลมากที่สุดนะครับ ดังนี้
คำตอบข้อที่ 1 เป็นไปไม่ได้เลย ที่พระพุทธเจ้าจะทำสงคราม
หลังตรัสรู้ ข้อนี้จึงไม่ถูกต้อง นักเรียนตัดไปเลยครับ คำตอบข้อที่ 2 เป็นคำตอบที่ถูกนะครับ
แต่ถูกไม่ตรงคำถาม พระราชมารดาของพระพุทธเจ้า พระองค์สวรรคต (คำนี้อ่านว่า สะ-หวัน-คด
นะครับ) หลังจากที่ประสูติพระพุทธองค์ เมื่อ 7 วันให้หลัง
แต่คำถามไม่ได้ถามวันสวรรคตของพระราชมารดา ข้อนี้จึงผิดครับ ส่วนคำตอบข้อที่ 4 เป็นคำตอบที่ผิดอย่างสิ้นเชิง
เพราะ เจ้าชาสิทธัตถะมีพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น คือ ราหุล นั้นเอง
คำตอบที่ถูกต้องคือ
พระองค์จะสามารถเผยแผ่ศาสนาได้ 7
แคว้น
________________________________________________
8.
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์เรียนรู้เกี่ยวกับสมุทัยอย่างไร ?
1. ให้ละทิ้ง
2. ให้นำมาปฏิบัติ
3. ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
4. ให้นำมาใช้ในการแก้ปัญหา
คำตอบ ข้อ 1
อธิบายดังนี้ครับ
นักเรียนจะทราบแล้วว่าในข้อสอบข้อนี้เป็นการถามเรื่อง “อริยสัจ 4” คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค โดยตามที่ครูเดช
เคยติวในคลิป ครูให้นักเรียนแยกดังนี้คือ แยกเป็นเหตุและผล จะแบ่งออกเป็นได้ 2
คู่ คือ
ทุกข์
เป็นผล สมุทัย เป็นเหตุ
นิโรธ
เป็นผล มรรค เป็นเหตุ
การทำความเข้าใจ
เพราะมีสมุทัย (สาเหตุเกิดทุกข์)
ความทุกข์จึงเกิด
--------- ปวดท้องรุนแรง (ทุกข์)
เพราะ ไม่ล้างมือ (สมุทัย)
เพราะมีมรรค (หนทางดับทุกข์)
นิโรธจึงเกิด (การดับทุกข์)
---------มีสัมมาสติ (-การระลึกรู้ตัว-ในมรรค8) รู้ตัวว่ากำลังจะกินข้าว ก็ล้างมือก่อนกิน (มีสติ
รู้ว่ากำลังทำอะไร) เมื่อกินข้าวแล้วจึงไม่ปวดท้อง ไม่ท้องเสีย (นิโรธ การดับทุกข์)
เมื่อเรารู้ว่า
ทุกข์เกิดขึ้นจากการไม่ล้างมือ ทุกข์
คือการปวดท้อง ไม่ล้างมือ คือ สมุทัย
เราก็ตะต้องละเว้นไม่ทำสมุทัย ดังนี้สมุทัยจึงเป็นสิ่งที่ควรละเว้น ละเว้นเพื่อไม่ให้เกิดความทุกข์
นั้นเองครับ
________________________________________________
9. ทุกครั้งที่ลักขณาได้ยินเพื่อนต่างห้องนิทาว่าร้ายเพื่อนสนิทของตน
เธอจะเข้าไปพูดแก้ต่าง ชี้แจงความจริงให้แก่เพื่อนของเธอ จากพฤติกรรมของลักขณา
จัดว่าเป็นลักษณะของมิตรประเภทใด ?
1. มิตรมีน้ำใจ
2. มิตรอุปการะ
3. มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข
4. มิตรแนะนำประโยชน์
คำตอบ ไม่มีข้อถูก (ครูเดชให้ข้อมูลผิดพลาดในคลิปติวโอเน็ตข้อนี้ครับ)
เพราะมิตรที่ทำการชี้แจงความจริงของเพื่อนของตน
นั้นเป็นมิตรที่อยู่ในกลุ่ม มิตรมีความรักใคร่ ดังนี้
มิตรมีความรักใคร่ แสดงออกมา ๔ ลักษณะ…
..ทุกข์..ทุกข์ด้วย ..สุข..สุขด้วย
..โต้เถียงคนที่พูดติเตียนเพื่อน ..รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน
..ทุกข์..ทุกข์ด้วย ..สุข..สุขด้วย
..โต้เถียงคนที่พูดติเตียนเพื่อน ..รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน
มิตร 4 ประเภท
•
๑.
มิตรมีอุปการะ แสดงออกมาในทาง…
•
..ป้องกันเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ..ป้องกันทรัพย์ของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว
..เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งพำนักได้ ..เมื่อมีธุระช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก
..เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งพำนักได้ ..เมื่อมีธุระช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก
•
๒.
มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุขกันได้ แสดงออกมา ๔ ลักษณะ…
..ขยายความลับของตนแก่เพื่อน ..ปกปิดความลับของเพื่อน มิให้แพร่งพรายออกไป
..ไม่ทอดทิ้งเพื่อนในยามที่ เพื่อนประสบความพิบัติ ..แม้ชีวิตอาจสละแทนเพื่อนได้
..ขยายความลับของตนแก่เพื่อน ..ปกปิดความลับของเพื่อน มิให้แพร่งพรายออกไป
..ไม่ทอดทิ้งเพื่อนในยามที่ เพื่อนประสบความพิบัติ ..แม้ชีวิตอาจสละแทนเพื่อนได้
•
๓.
มิตรแนะนำประโยชน์ แสดงออกมา ๔ ลักษณะ…
..ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว ..แนะนำให้ตั้งอยู่ในความดี
..ให้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ..บอกทางสวรรค์ให้
..ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว ..แนะนำให้ตั้งอยู่ในความดี
..ให้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ..บอกทางสวรรค์ให้
•
๔.
มิตรมีความรักใคร่ แสดงออกมา ๔ ลักษณะ…
..ทุกข์..ทุกข์ด้วย ..สุข..สุขด้วย
..โต้เถียงคนที่พูดติเตียนเพื่อน ..รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน
..ทุกข์..ทุกข์ด้วย ..สุข..สุขด้วย
..โต้เถียงคนที่พูดติเตียนเพื่อน ..รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน
ที่มา : หนังสือ “พระพุทธศาสนา
ได้ให้อะไรแก่เรา”
ธรรมนิพนธ์ พระธรรมเมธาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ)
ธรรมนิพนธ์ พระธรรมเมธาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ)
________________________________________________
10.
การตักบาตรเทโวโรหณะสอดคล้องกับเหตุการณ์ตอนใดในพุทธประวัติ ?
1. มารผจญ
2. ปรินิพพาน
3. ลงจากเทวโลก
4. รับข้าวมธุปายาส
คำตอบ ข้อ 3
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ได้มีผู้คนมารอรับพระพุทธเจ้า ทำให้เกิดเป็นประเพณีการตักบาตรเทโวโรหะณะ
ซึ่งมักจะตักหลังวันออกพรรษาไปแล้ว 1 วัน ในประเพณี
ทำให้เกิดขนมประจำประเพณี หรือ ประจำเทศกาลขึ้น คือ การทำ “ข้าวต้มลูกโยง”
________________________________________________
11.
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เห็นถึงความสำคัญของปัญญา เพราะเหตุผลในข้อใด ?
1. ทำให้มีอาชีพที่มั่นคง
2. ทำให้มีทรัพย์สินมาก
3. ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้อื่น
4. ทำให้รู้วิธีแก้ปัญหาที่เกิดจากทุกข์ด้วยเหตุและผล
คำตอบ ข้อที่ 4
ให้นักเรียนจำไว้ว่า
ศาสนาพุทธสอนในเรื่องของเหตุและผล ดังนั้น
มีเพียงข้อคำตอบเพียงข้อเดียวเท่านั้นที่มีกล่าวถึงเหตุและผล
นี้คือหัวใจหลักและความสำคัญของปัญญาครับ
________________________________________________
12. บุโรพุทโธที่ตั้งอยู่บนเกาะชวา
สะท้อนข้อมูลตามข้อใด ?
1.
พระพุทธเจ้าทรงเคยเสด็จมาประทับที่เกาะชวา
2.
ในอดีตพระพุทธศาสนาบนเกาะชวาเคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก
3.
พุทธศาสนิกชนนิยมเดินทางมาสร้างพุทธสถานที่ใหญ่โตบนเกาะชวา
4.
พระสมณทูตจากชมพูทวีปมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นแห่งแรกในสุวรรณภูมิ
คำตอบ ข้อที่ 2
บุโรพุทโธ นั้น
เป็นเจดีย์ของพุทธศาสนาที่ใหญ่โตมากดังภาพ ในเกาะชวาครับ
ดังนั้นให้นักเรียนจำไว้ว่า การที่ใครคนหนึ่ง ที่ใดที่หนึ่ง
จะสร้างถาวรสถานที่ใหญ่โต เช่นนี้ได้ ย่อมมีเพียงเหตุผลเดียวคือ ในช่วงเวลานั้น
มีความเจริญทางศาสนาอย่างมากนั้นเองครับ
________________________________________________
13.
บุคคลที่มีส่วนสำคัญทำให้อุปติสสะได้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าคือใคร ?
1. พระอัสสชิ
2. โกณฑัญญะ
3. พระมหากัสสปะ
4. พระโมคคัลลานะ
คำตอบ ข้อ 1
ในข้อนี้นักเรียนบางคนอาจจะไม่เข้าใจ
อธิบายชื่อดังนี้ครับ
อุปติสสะ คือ พระสารีบุตรพบ
พระอัสสชิเถระ จึงถามธรรมมีความศรัทธาและเลื่อมใส จึงชักชวน
โกลลิตะบวชในพระศาสนา โกลลิตะ คือ พระโมคคัลลานะนั้นเองครับ
หากนักเรียนที่พอรู้แล้ว
อย่าสับสนนะครับ เพราะในข้อสอบถามคนชวนอุปติสสะ ไม่ใช่ถามว่าใครชวนโกลลิตะ
นะครับ
อีกอย่างคือข้อสอบถามว่าบุคคลที่เป็นส่วนสำคัญ ครับ นั้นคือ
ท่านพระอัสสชินั้นเองครับ
________________________________________________
14.
ข้อใดเป็นการปฏิบัติตนที่สอดคล้องกับการประพฤติทางกายที่ดีตามหลักกุศลกรรมบถ 10 ?
1.
ประภาปล่อยให้ยุงกัดเพราะการฆ่าสัตว์นั้นเป็นบาป
2.
สมภพลงโทษสุนัขโดยไม่ให้อาหารและน้ำเป็นเวลา 3 วัน
3.
กมลซื้อโทรศัพท์มือสองต่อจากเพื่อนที่ขโมยมาเพราะราคาถูก
4.
สินสมุทรเก็บเงินได้จากสนามเด็กเล่นจึงนำไปคืนครูประจำชั้น
คำตอบ ข้อที่ 4
แม้ว่าข้อนี้นักเรียนจะไม่รู้เลยว่า
กุศลกรรมบถ 10 คืออะไร
แต่นักเรียนก็พอจะเดาคำตอบได้ครับ เดาจากความแตกต่างมากที่สุดของ คำตอบข้อ 1
นั้นไม่ใช่แน่นอน เพราะคือการทรมานตน
ไม่ถูกต้องตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
ข้อที่ 2 ก็คือการทรมานสัตว์ ไม่ใช่เช่นกันครับ ข้อที่ 3 การซื้อของโดยที่รู้ว่าขโมยมา
เป็นทั้งบาปและผิดกฎหมาย ข้อที่ถูกต้องที่สุด และตรงกับคำว่ากุศล
จึงมีเพียงสิ่งเดียว คือข้อ 4 การทำความดีนั้นเองครับ
•
คำว่า กรรมบถ (อ่านว่า
กำมะบด) แปลว่า ทางแห่งกรรม
•
ที่เป็นกายกรรม
มี 3 อย่าง คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม
•
ที่เป็นวจีกรรม
มี 4 คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
•
ที่เป็นมโนกรรม
มี 3 คือ ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่พยาบาทปองร้าย เห็นชอบตามคลองธรรม
(สัมมาทิฐิ)
•
กุศลกรรมบถ ก็คือสุจริตทางกาย ทางวาจา และทางใจนั่นเอง
________________________________________________
15. บุคคลใดต่อไปนี้ทำบุญแบบอามิสทาน ?
1.
วิหคให้อภัยเพื่อนที่ทำหนังสือของตนหาย
2. สกุณาติวหนังสือให้เพื่อนก่อนสอบ
3.
ปักษีบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
4. ปักษาหมั่นไปถามพระอาจารย์เกี่ยวกับพระธรรมะที่ตนสงสัย
คำตอบ ข้อที่ 3
พิจารณาคำตอบได้ดังนี้ครับ อามิสทาน คือ การให้ทานด้วยสิ่งของ
ข้อ
1 อภัยทาน ข้อ 2 ธรรมทาน
ข้อ
3 อามิสทาน ข้อ 4 ธรรมทาน
________________________________________________
16. ในฐานะที่นักเรียนเป็นคนไทย
สามารถมีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ?
1. บวชเณรหรือบวชชีพราหมณ์
2.
เป็นอาสาสมัครออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา
3.
พิมพ์เผยแผ่ตำราทางพระพุทธศาสนาให้หลากหลายภาษา
4.
ศึกษาคำสอนทางพระพุทธศาสนาให้ถ่องแท้และนำไปปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น
คำตอบ ข้อที่ 4
การสืบทอดพระพุทธศาสนานั้นไม่ได้หมายความว่าต้องทำการบวช
หรือ ใช้กำลังทรัพย์เสมอไปครับ
การศึกษาเพียงคำสอนให้เข้าใจและนำไปปฏิบัติเป็นหนทางที่เหมาะสมที่สุดของทุกคนครับ
________________________________________________
17. บุคคลใดต่อไปนี้ปฏิบัติตนไม่ถูกต้องในวันขึ้น
15 ค่ำ เดือน 3
?
1. เง็กตื่นมาตักบาตรแต่เช้าตรู่
2. เม้งชวนเพื่อนๆ
ไปเวียนเทียนที่วัดตอนค่ำ
3.
เกียวไปฟังพระเทศน์เรื่องโอวาทปาฏิโมกข์
4.
กิมไปถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระสงฆ์ที่วัด
คำตอบ ข้อที่ 4
ทุกคนในคำตอบทำได้ถูกต้องทั้งหมด
เพราะ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 นั้นคือ วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ข้อที่ผิดคือข้อที่ 4
เพราะ การถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้น
ทำกันเฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้นครับ
จำ! ผ้าอาบน้ำฝน ใช้เวลาฝนตก ฝนตก พระจำพรรษา วันเข้าพรรษา
________________________________________________
18.
การกระทำในข้อใดเป็นวิธีการคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม ?
1.
สมหญิงอุทิศร่างกายให้แก่สภากาชาดเพื่อการศึกษาวิจัยก่อนเสียชีวิต
2. สมชายขยันทำงานเพื่อสร้างทรัพย์สมบัติให้ได้มากที่สุด
3.
สมโชคเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกเพื่อสร้างความสุขให้กับตนเอง
4.
สมทรงไม่กระทำการอันใดที่เป็นการสร้างภาระให้กับตนเองและผู้อื่น
คำตอบ ข้อที่ 1
วิธีการคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม
เป็นการใช้เหตุผลหรืออุบายเพื่อให้เกิดการกระทำที่เป็นกุศล ในข้อ 2 และ 3 เป็นการสร้างความสุขแก่ตน
ไม่ถือว่าเป็นการปลุกเร้าคุณธรรม ในข้อที่ 4 นั้น ก็เป็นเสมือนการก่อภาระแก่ตนเอง
และผู้อื่น มิใช่การปลุกเร้าเช่นเดียวกันครับ มีเพียงข้อ 1 เท่านั้น
ที่มีการคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม ดังที่กล่าวในข้างต้น เป็นอุบาย ว่าตนเองต้องตาย
ก็ทำชีวิตให้มีคุณค่า ปลุกเร้าคุณธรรม การไม่เห็นแก่ตัว
การทำคุณประโยชน์ต่อผู้อื่น นั้นเองครับ
________________________________________________
19.
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาหลังพุทธปรินิพพานที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดคือข้อใด ?
1. การทำสังคายนาครั้งที่ 1
2. การร้อยกรองพระธรรมวินัย
3. การแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
4. การส่งสมณทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช
คำตอบ ข้อที่ 4
เพราะในสมัยพระเจ้าอโศก
พระองค์ได้ส่งสมณะทูตออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทำให้การเผยแผ่เป็นรูปธรรม
หรือเห็นได้เด่นชัดที่สุดในสมัยนี้นครับ
________________________________________________
20.
ข้อใดแสดงความสัมพันธ์กันได้ถูกต้อง ?
1. วันมาฆบูชา – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
2. วันวิสาขบูชา – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
3. วันอัฏฐมีบูชา – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
4. วันอาสาฬหบูชา – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
คำตอบ ข้อที่ 2
ให้นักเรียนเข้าดูคำอธิบายอย่างละเอียดใน
ทริปจำวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
คลิกที่เมนูด้านบน เลือกติว O-NET เลือกหัวข้อย่อยศาสนา และเลือกทริปครับ
________________________________________________
21. จุดมุ่งหมายของ “จิตภาวนา” คือข้อใด ?
1. การสวดอ้อนวอนให้บรรลุผล
2. การสร้างความสงบในจิตใจ
3. การมีระเบียบวินัย สำรวมกายวาจา
4. การแผ่ความดีไปสู่มวลมนุษย์
คำตอบ ข้อที่ 2
ให้นักเรียนพิจารณาตามข้อคำตอบครับ
นักเรียนจะเห็นว่า ในข้อ 3 เป็นการรวมทั้งกายและจิต
ข้อที่ 4 การเผยแผ่ เป็นการกระทำทางกาย
จึงตัดคำตอบนี้ออกครับ เพราะ โจทย์ถาม “จิตภาวนา” คือเรื่องของจิต
แต่เพียงอย่างเดียว จึงจะเหลือ 2 ข้อ คือ ข้อ 1 และ 2 ทั้งนี้
ข้อ 1 นั้น เป็นการภาวนาในความหมายของคนทั่วไป แต่จริง ๆ
แล้ว คำว่า ภาวนา นั้นมีความหมายว่าการสำรวจหรือทำให้จิตใจสงบ
การอ้อนวอนเป็นไปในลักษณะการมีความทุกข์จึงอ้อนวอน ไม่ใช่การภาวนาที่ถูกต้อง
ดังนั้นข้อ 2 ถูกต้องที่สุดครับ
________________________________________________
22. ความเข้าใจในไตรลักษณ์
จะช่วยในการดำเนินชีวิตของเราอย่างไร ?
1. เป็นคนแก่ที่มีคุณภาพ
2. ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความเข้าใจกัน
3. ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท
4. ทำใจได้ดั่งคำว่า “ใครชอบ ใครชัง” ช่างเถิด
คำตอบ ข้อที่ 3
กฎไตรลักษณ์ คือ สิ่งธรรมดาสามัญ 3 สิ่ง คือ อนิจัง ทุกขัง อนัตตา คือ ความไม่เที่ยงเที่ยงแท้แน่นอน
ล้วนเป็นความทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในสภาพนี้
เมื่อเราทราบว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นเป็นปกติ
เราจึงควรดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทครับ
________________________________________________
23.
หน้าที่สำคัญของพราหมณ์ ตามหลักศาสนาฮินดูคือข้อใด ?
1. สอนหนังสือ
2. ประกอบพิธีกรรม
3. โล้ชิงช้า
4. จัดบายศรี
คำตอบ ข้อที่ 2
หน้าที่ของพราหมณ์ที่สำคัญมี 2 อย่างหลัก ๆ คือ การศึกษาคัมภีร์พระเวท
และการประกอบพิธีกรรม นั้นเองครับ
________________________________________________
24.
จุดมุ่งหมายในการประกาศบัญญัติ 10 ประการของโมเสสคือข้อใด ?
1. ให้เคารพบิดามารดาของตน
2. มิให้โลภในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน
3.
อย่าฆ่ามนุษย์เพราะมนุษย์ทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า
4. สร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวยิวมีความอดทนและศรัทธาในพระเจ้าองค์เดิม
คำตอบ ข้อที่ 4
การมอบบัญญัติ 10 ประการจากพระเจ้า ผ่านศาสนทูต คือ ท่านโมเสก นั้น เป็นช่วงเวลาที่ชาวยิวอยู่ในสภาวะที่ลำบาก
และไร้ที่อยู่ ดังนั้นหัวใจสำคัญที่ท่านโมเสกนำโองการจากพระเจ้ามานั้น
จึงเป็นการทำให้ชาวยิวที่มีความทุกข์ยากลำบากมีความอดทน มีกำลังใจ และทำให้เกิดความสามัคคี
เพราะมีพระเจ้าพระองค์เดียวด้วยกันนั้นเอง ครับ
________________________________________________
25.
บุคคลใดย่อมได้รับการยกเว้นในการถือศีลอด ?
1. อารี เป็นหญิงแม่ลูกอ่อน
2. อุทัย อายุไม่ถึง 20 ปี
3. อาทิตย์ เป็นอาสารักษาดินแดน
4. เอื้อมพร ต้องดูแลมารดาที่ป่วยหนัก
คำตอบ ข้อที่ 1
อธิบายตามข้อมูลนี้ครับ
สำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด
ได้แก่
•
1. คนเจ็บป่วย
•
2.
หญิงที่มีประจำเดือน
•
3.
หญิงที่ให้นมบุตร แต่หากมีความสามารถ ก็จะถือได้
•
4. หญิงที่ตั้งครรภ์
•
5. คนแก่ชรา ที่ไม่มีความสามารถเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม
บุคคลเหล่านี้ต้องจ่ายทาน เป็นข้าวสารวันละ 1 มุด
(1 มุด ประมาณ 6 ขีด) และสำหรับคนเจ็บป่วย
และสตรีที่มี
ประจำเดือนนั้นให้ถือศีลอดใช้ภายหลังให้ครบก่อนรอมฎอนในปีถัดไป
นักเรียนสามารถดูเฉลยข้อสอบได้ตามลิงค์นี้ครับ
สำหรับเตรียมสอบ O-NET สังคม หน่วยศาสนา ม.6 ลิงค์
หรือทดลองทำข้อสอบ O-NET สังคม ย้อยหลังและ PRE-O-NET ได้ตามลิงค์
ทำข้อสอบ O-NET สังคม ป.6 ย้อนหลัง ลิงค์
ทำข้อสอบ O-NET สังคม ม.3 ย้อนหลัง ลิงค์
ทำข้อสอบ O-NET สังคม ม.6 ย้อนหลัง ลิงค์
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้
ดาวน์โหลด"มานะมานี" แจกไฟล์ตำราเรียนฟรี
ดาวน์โหลด"มานะมานี" แจกไฟล์ตำราเรียนฟรี สวัสดีครับทุกท่าน ปัญหาการอ่านเขียนไม่คล่องของเด็กและเยาวชนของเรานับวันยิ่งมีปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น เรื่อย ๆ จนน่ากลัว การแก้ไขปัญหาภาษาไทยนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ของหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการศึกษาเสียแล้วครับ เมื่อหลายท่าน ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ มีความเห็นตรงกันว่า จะปล่อยปะละเลยต่อปัญหานี้ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดี วันนี้ ครูเดชจึงได้นำไฟล์ตำราเรียน ที่แสนจะวิเศษ และผมเองกล้าการันตรีว่า หากนักเรียน หรือ ผู้ที่มีปัญหาภาษาไทย ได้ตั้งใจอ่าน ตั้งใจทำความเข้าใจ จะสามารถพัฒนาภาษาไทยไปได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ "มานะ มานี" นอกจากจะเป็นตำราภาษาไทย ที่คนที่มีอายุหลายท่านได้สัมผัสเรียนรู้ในวิชาภาษาไทยมาแล้ว ท่านจะทราบว่าตำราเรียนเล่มนี้ ไม่ได้มีแต่ความรู้ภาษาไทย อย่างเดียวไม่ หากแต่มีความน่าสนุก น่าสนใจ และความตื้นเต้น กลวิธีนี้เองล่ะครับ ที่ผมเห็นว่า เป็นอุบายล่อให้เด็กสนใจตำราเรียนได้เป็นอย่างดี ความสนุก ความเพลิดเพลิน เมื่อนักเรียนอ่านจบเล่ม ตัวละครก็จบชั้นเดียวกัน เมื่อเลื่อนชั้น นักเรี
แจกฟรีแบบฝึกหัดภาษาไทยมานะมานี ป.1
แจกฟรี แบบฝึกหัดภาษาไทยใช่ควบคู่กับตำรามานะมานี ป. 1 คลิกที่ลิงก์เพื่อดาวน์โหลดครับ แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 1-5 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 6-10 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 11-15 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 16-20 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 21-25 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 26-30 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 31-35 อยู่ในขณะจัดทำ แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 36-40 อยู่ในขณะจัดทำ เรียนออนไลน์ เรียนภาษาไทยออนไลน์ เรียนอ่านเขียนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยที่ออสเตรเลีย หาครูสอนภาษาไทยที่ญี่ปุ่น หาครูสอนภาษาไทยที่เวียดนาม หาครูสอนภาษาไทยที่อเมริกา หาครูสอนภาษาไทยที่เยอรมัน หาครูสอนภาษาไทยที่ฝรั่งเศส Learn Thai with native speakers. หาครูสอนภาษาไทยอ่านเขียน สอนอ่านหนังสือภาษาไทย สอนอ่านเขียน ลูกอ่านภาษาไทยไม่ออก หาครูแก้ไขภาษาไทย สถาบันสอนภาษาไทย โรงเรียนสอนภาษาไทย หาครูสอนภาษาไทยนานาชาติ หาครูสอนภาษาไทยลูกครึ่ง หาครูสอนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนพิเศษ ห
กทม. 6 โซน : เพื่อวางแผนเส้นทางการสอนสำหรับติวเตอร์
ให้ติวเตอร์ใช้เขตพื้นที่เหล่านี้ เพื่อระบุพื้นที่ที่ท่านสามารถเดินทางไปสอนได้สะดวกครับ ศูนย์จะแจ้งงานให้ท่านทราบตามพื้นที่การเดินทางที่ท่านสะดวกครับ โปรดแจ้งตามความสะดวกจริง เพื่อความรวดเร็วในการรับงานสอนนะครับ 1.กลุ่มกรุงเทพกลาง ประกอบด้วย เขตพระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี และวังทองหลาง 2.กลุ่มกรุงเทพใต้ ประกอบด้วย เขตปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย วัฒนา พระโขนง สวนหลวง และบางนา 3. กลุ่มกรุงเทพเหนือ ประกอบด้วย เขตจตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม และบางเขน 4.กลุ่มกรุงเทพตะวันออก ประกอบด้วย เขตบางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวาและประเวศ 5.กลุ่มกรุงธนเหนือ ประกอบด้วย เขตธนบุรี คลองสาน จอมทอง บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย บางพลัด ตลิ่งชันและทวีวัฒนา 6.กลุ่มกรุงธนใต้ ประกอบด้วย เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม บางขุนเทียน บางบอน ราษฎร์บูรณะและทุ่งครุ เรียนออนไลน์ เรียนภาษาไทยออนไลน์ เรียนอ่านเขียนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยท