Featured post

เรียนภาษาไทย-ติวO-NETสังคม : แนะนำ 5 เคล็ดลับ…ทำยังไงถึงจะอ่านภาษาอังกฤษให้เก่ง

ขอบคุณข้อมูล จาก  http://www.dailyenglish.in.th

สำหรับคนไทย การอ่านภาษาอังกฤษต่างๆผ่านสื่อไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือแม้แต่นิยายภาษาอังกฤษก็ถือเป็นเรื่องยาก และการฝึกอ่านภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่เราพยายามจะหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด
ผมเองเมื่อก่อนก็เคยเกลียดสุดๆเลย พวกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษเนี่ย อ่านไปก็ไม่เข้าใจ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย เพราะปัญหามันอยู่ที่ว่า…ภาษาที่ใช้ในในข่าวเป็นภาษาที่ยากที่สุด เพราะคนเขียนข่าวมักใช้คำสั้นและแรงที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจให้ขายข่าวได้นั่นเอง
จากนั้นผมก็เริ่มถอยหลังมา 1 ก้าว เริ่มต้นจากการอ่านอะไรที่มันง่ายๆนี่แหละ นั่งอ่านนิทานอีสป(Aesop’s Fables) เป็นภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล จากนั้นก็เริ่มจับนิยายยอดฮิตอย่าง Harry Potter ขึ้นมาอ่าน แรกๆก็เปิดดิกชันนารี่บ่อยนะ(บ่อยมากๆๆ) แต่อ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มชิน แล้วก็พอเดาคำศัพท์จากบริบทได้เอง
ทีนี้ผมมี “หลักการ 5 ข้อในการอ่านภาษาอังกฤษให้เก่ง” มาฝากครับ
1. เลือกอ่านหนังสือเล่มที่อยากอ่านจริงๆเท่านั้น
เพราะจะเป็นแรงบันดาลใจให้อ่านได้ต่อเนื่อง จนเกิดนิสัยรักการอ่านในอนาคต ถ้าเราไปเลือกผิด จับหนังสือที่ไม่สนุก หรือใช้ภาษาที่ซับซ้อนเกินไป ถึงอ่านไปก็ไม่เข้าใจ พาลชวนให้ล้มเลิกความพยายามเสียเปล่าๆ ดังนั้นต้องถามตัวเองก่อนนะว่าเราชอบหนังสือภาษาอังกฤษแนวไหนกันแน่? อาจเป็นการ์ตูนฝรั่ง นิตยสารแฟชั่น หรือแม้แต่นิยายภาษาอังกฤษก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้ทั้งนั้น
choosebook
2. ถ้ารู้สึกเบื่อหรือหนังสือยากเกินไป ให้หยุดอ่านแล้วเปลี่ยนเล่มใหม่ทันที
แนะนำให้หาเล่มที่อ่านง่ายก่อน เพราะดูเหมือนเราจะยังไม่พร้อมที่จะอ่านเล่มยากๆตอนนี้ ถ้าไม่มีสมาธิ อ่านไปเรื่อยๆยังไงก็ไม่ซึมซับครับ สู้อ่านเรื่องที่เราชอบ หรือถนัดดีกว่า พอมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังสือภาษาอังกฤษแล้วมันก็จะทำให้เราอ่านได้นานๆจนลืมเวลาไปเลยล่ะ 
3. ฝึกเดาความหมายศัพท์ที่ไม่รู้
โดยพิจารณาจากศัพท์หรือประโยคข้างเคียง ถ้าเดาไม่ออกก็ให้อ่านข้ามไปได้ อย่าไปกลัวว่าจะไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดอย่างครบถ้วน เพราะการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาอังกฤษนั้นเน้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่องโดยรวม และการเห็นคำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์ซ้ำๆ บ่อยๆก็จะจำและตีความได้เอง
nodictionary
4. เปิดพจนานุกรมขณะอ่านให้น้อยที่สุด
มีงานวิจัยด้านภาษาได้ระบุไว้ว่า นักอ่านที่หยุดอ่านเป็นระยะๆ (slow reader) จะมีกระบวนการเรียนรู้ภาษาช้ากว่าคนที่ฝึกอ่านเร็วๆ (speed reader) ในช่วงแรกอาจต้องพึ่งพาดิกชันนารี่ แต่พอผ่านไปถึงจุดๆหนึ่งก็ต้องพึ่งพาตัวเองแล้วล่ะครับ  จะได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายแล้วมีความรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่ในหัวก็ยังดีกว่าต้องมาคอยเปิดดิกชันนารี่หาความหมายทุกคำอยู่ดี
5. อ่านหลายๆรอบ
ยิ่งอ่านซ้ำหลายๆรอบ จะช่วยทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องและเพิ่มความสามารถภาษาอังกฤษได้มากขึ้นโดยอัตโนมัติ อ่านไปเถอะครับ ไม่ต้องไปนับว่ากี่ครั้ง จะเป็นสิบ หรือเป็นร้อยรอบแต่ถ้ามันทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษ อ่านข่าวภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ก็คุ้มค่าแล้วจริงมั้ย?
ถ้าเราจับจุดถูกต้องหยิบหนังสือที่เราชอบขึ้นมาได้ละก็ เรื่องยากๆก็จะดูเป็นเรื่องสนุกสำหรับเราเลยทีเดียว ลองหาหนังสือภาษาอังกฤษที่ชอบมาอ่านซักเล่มนะครับ แล้วจะรู้ว่าการ ฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ไม่ได้ยาก หรือน่าเบื่ออย่างที่คิดเลย เผลอๆอาจทำให้เราเรียนภาษาอังกฤาได้ดีขึ้นด้วย ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านภาษาอังกฤษนะครับ
ไหนๆก็รู้เคล็ดลับแล้ว ลอง Download หนังสืออ่านนอกเวลาภาษาอังกฤษไปอ่านกันได้ที่นี่เลยครับ 
ขอบคุณข้อมูลจาก SE-ED Genius Readers

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลด"มานะมานี" แจกไฟล์ตำราเรียนฟรี

กทม. 6 โซน : เพื่อวางแผนเส้นทางการสอนสำหรับติวเตอร์

แจกฟรีแบบฝึกหัดภาษาไทยมานะมานี ป.1