Featured post

เรียนภาษาไทย-ติวO-NETสังคม : มาจัดสมดุลให้ชีวิตกันเถอะ

มาจัดสมดุลให้ชีวิตกันเถอะ


          เหน็ดเหนื่อยจากงานมาทั้งวัน กว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำ เป็นอย่างนี้มาชั่วนาตาปี เมื่อไหร่จะหลุดพ้นวงจรเก่าๆตื่นเช้า-ทำงาน-กลับบ้่าน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เจอปัญหาเหล่านี้ น่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะหันกลับทมาจัดสมดุลในชีวิตของคุณซักที ด้วย 5 วิธีง่ายๆที่เรานำมาฝากในวันนี้
แก้ไขอ่านเขียนไทยไม่ออก เรียนพิเศษภาษาไทย เรียนอ่านเขียนไทยประถม เรียนพิเศษส่วนตัวภาษาไทย หาที่เรียนภาษาไทย ครูสอนพิเศษภาษาไทย หาครูสอนภาษาไทย  สอนอ่านภาษาไทย  สอนภาษาไทยเด็ก  สอนภาษาไทย  สอนพิเศษภาษาไทย  เรียนอ่านภาษาไทย  เรียนพิเศษสังคม  เรียนพิเศษภาษาไทย  เรียนพิเศษ ไทย สังคม   รับสอนพิเศษภาษาไทย  ติวภาษาไทย  ครูสอนภาษาไทย  ครูสอนพิเศษภาษาไทย ติวโอเน็ตสังคม ครูเดช O-NETสังคม  ติวO-NETสังคมฟรี หาวิทยากรติวโอเน็ต
          1.สร้างเส้นแบ่งในสมองของคุณระหว่างงานกับที่บ้านจิตแพทย์สังคมแนะนำว่า “ความสามารถในการทำงานของคุณจะทรงประสิทธิภาพ ตราบเมื่อชีวิตส่วนตัวของคุณสามารถทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเพิ่มพลังให้ตัวคุณ”  ถ้าคุณไม่สามารถจะทิ้งความคิดหรือภาระงานของคุณไว้ที่ออฟฟิศหลังเลิกงานได้ เราแนะนำให้คุณสร้างห้องสงบทางจิตใจ จากนั้นให้คุณเข้าไปนั่งอย่างสงบในนั้น และสลัดความคิด ความเครียดที่มีในภารงานไว้ในห้องนั้น จากนั้นจึงปิดตายมัน เพื่อให้สมองและความคิดของคุณเหลือพอที่จะไปทำหรือคิดเรื่องอื่นบ้าง
          Trips : เมื่อถึงเย็นวันศุกร์หรือทุกๆเย็นหลังเลิกงานก่อนที่คุณจะเดินออกจากออฟฟิศ ให้คุณล็อกจากห้องนั้นซะ หากจำเป็น

          2.ทิ้งภาระงานทั้งหลายไปไว้ที่ออฟฟิศ
บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่างานทั้งหลายมันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจของคุณ หรือฝังอยู่ภายใต้จิตสำนึกของคุณโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำงานหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาที่อยู่บ้าน หากคุณต้องล้างจานไปด้วยขณะคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ หรือคุณต้องเช็คเมลผ่านแบล็กเบอร์รี่ขณะกำลังชมภาพยนตร์ ในกรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า “คุณอาจเคยชินกับการทำงานหนักหรือมากเกินไปจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับร่างกายคุณแล้วไม่ม่ทาง”

          และเพื่อที่จะจัดสมดุลระหว่างการทำงาน การพักผ่อน และการบันเทิงเริงใจ ให้คุณเขียนพฤติกรรมการทำงาน 5 อย่างมักเบี่ยงบังเวลาพักผ่อนของคุณ โดยให้คุณเลือกโฟกัสที่พฤติกรรมหนึ่งก่อน เช่น หากคุณมักอดไม่ได้ที่จะใช้เจ้าแบล็กเบอร์รี่ ระหว่างช่วงพักผ่อน ให้คุณค่อยๆลดและเลิกพฤติกรรมนี้

          3.ทำความรู้จักหรือเป็นเพื่อนกับคนรอบข้างคุณนอกเหนือจากคนในวิชาชีพ
ดักลาส รูสคอฟ ผู้เขียนหนังสือ “ Get Back in the Box: Innovation from the Inside Out” บอกว่า เพื่อที่จะเติมเต็มชีวิตส่วนตัวของคุณให้สมบูรณ์ คุณต้องขยายขอบข่ายคนที่คนรู้จักมากกไปกว่าคนที่คุณทำงานด้วย มิฉะนั้น คุณก็มักจะถูกผลักให้เล่นบทบาทเดิมๆที่คุณแสดงที่ที่ทำงานของคุณ วิธีง่ายๆในการทำความรู้จักเพื่อนๆใหม่ๆอาจเป็นการลงเรียนวิชาสิลปะ หรือเข้าชั้นเรียนโยคะ พร้อมทำความรู้จักเพื่อนร่วมชั้นของคุณ หรือถ้าไม่งั้นเพื่อนออนไลน์ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลอกที่น่าสนไม่น้อย

          4.กำหนดเวลาว่าเมื่อไหร่ที่คุณควรเลิกพูดเรื่องงาน

หากเพื่อนร่วมกลุ่มของคุณทั้งหมดเป็นคนที่ทำงานอยู่ในแวดวงเดียวกัน คุณควรตั้งกฎทางสังคมร่วมกันซักข้อหนึ่ง เช่น พวกคุณอาจสุมหัวพูดถึงเรื่องงาน จัดกลุ่มเม้าท์ อย่างไรก็ตามคุณต้องมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้อยู่ในเวลาที่กำหนด เช่น 10 นาที และเมื่อครบเวลานั้นแล้ว คุณต้องเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนาทันทีไปเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ตั้งแต่การเมืองไปจนถึงเรื่องของไฮโซสาว ปารีส ฮิลตัน

          5.ทำให้บ้านของคุณเป็นเสมือนสถานท่ี่หลบภัย
เพื่อป้องกันไม่ให้งานมาบุกรุกบ้านของคุณ คุณควรสร้างโปรเจ๊คส่วนตัวขึ้นที่บ้าน เพราะมันจะช่วยให้คุณได้ชาร์จพลังให้ตัวเองอีกครั้ง ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น คุณอาจซื้อผ้าใบมาซักผืนและลงมือเพ้นท์มัน ตกแต่งซีดีซักแผ่นให้เพื่อนของคุณ หรือการวางแผนตกแต่งบ้านใหม่ก็ไม่เลว

          Trips
 : การลงมือเข้าครัวทำอาหารก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ เพราะหากคุณได้รับประทานอาหารที่ทำจากครัวของคุณ มันจะทำให้คุณรู้สึกถึงความเป็นบ้านมากกว่าเป็นโรงแรม

ขอบคุณที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาวน์โหลด"มานะมานี" แจกไฟล์ตำราเรียนฟรี

กทม. 6 โซน : เพื่อวางแผนเส้นทางการสอนสำหรับติวเตอร์

แจกฟรีแบบฝึกหัดภาษาไทยมานะมานี ป.1