สวัสดีครับ
ท่านผู้สนใจ วันนี้ครูเดชมารีวิวหนังสือ ชุดเสริมทักษะลูกรัก ชุดเปิดเปิดโลกกว้าง
1 นะครับ ขอแนะนำตัวก่อนเลยล่ะกันครับ
สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จักผม ผม ครูเดช ครับ
เป็นครูสอนพิเศษในด้านภาษาไทยสำหรับนักเรียนในวัยประถมและนักเรียนที่มีปัญหาการเรียนรู้ภาษาไทย
ทั้งนี้ยังสอนในกลุ่มวิชาสังคมศึกษา และประวัติศาสตร์ด้วยครับ
ด้วยประสบการณ์ที่มีมานานกว่า 5 ปี
ที่คลุกคลีกับเด็กนักเรียนและด้วยความชื่นชอบในหนังสือ ผมจึงจัดทำรีวิวนี้ขึ้นมาครับ
เป็นที่ทราบกันดีครับ ว่าการซื้อหนังสือออนไลน์
หรือผ่านหน้าร้านในเว็บไซท์เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก เสี่ยงที่น่ากว่ากว่าเสียเงิน
นั้นก็คือ เสี่ยงที่จะไม่รู้เนื้อหาภายใน ไปรู้อีกทีเมื่อหนังสือวางอยู่ในมือแล้ว
จะส่งกลับคืนก็ไม่ได้ นี้คือข้อด้อยของร้านหนังสือออนไลน์หลาย ๆ ร้านครับ
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะร้านหนังสือออนไลน์ส่วนมาก
ไม่มีการนำเนื้อหาภายในหนังสือแสดงให้ผู้สนใจหรือผู้ซื้อให้ได้อ่านหรือดูภายในก่อน
ผมเองเป็นผู้หนึ่งครับที่ไม่ชื่นชอบในการกระทำแบบนี้เลย
จนมาพบกับค่ายหนังสือ MIS ที่มีรูปแบบการนำเสนอหนังสือที่แตกต่างกว่าที่ร้าน
กล่าวคือ มีรูปภาพที่ชัดเจน มีข้อมูลเนื้อหา
รูปถึงมีวีดีโอแสดงกรณีที่เป็นหนังสือที่มาพร้่อมกับดีวีดี ซีดี เอ็มพีสาม
เป็นต้น
และอีกสิ่งคือมีรูปแบบหนังสืออีบุคตัวอย่างให้ท่านผู้สนใจคลิกเปิดอ่านเห็นเนื้อหาได้อย่างชัดเจน
จึงถือว่าเป็นรูปแบบของร้านหนังสือที่มีคุณภาพครับ
มาเข้าเรื่องเลยละกันครับ
วันนี้ผมจะนำรูปแบบการรีวิวหนังสือ ในกลุ่มชุดเสริมทักษะลูกรัก
ชุดเปิดโลกกว้าง 1
ซึ่งจะประกอบไปด้วยหนังสือ 10 เล่มครับ ดังนี้ (รีวิวสังเขปครับ)
เล่มที่ 1
ตัวไหนเป็นตัวไหน?
สอนเด็กแยกสัตว์ที่คล้ายกันออกจากกันได้
สัตว์ต่างพันธุ์แต่ทำไมคล้ายกัน?
•มีลายเหมือนกัน
•มีลำตัวยาวและว่ายน้ำเก่งเหมือนกัน
•มีเท้าเป็นครีบเหมือนกัน
•มีพังผืดคล้ายปีกเหมือนกัน
และลักษณะเด่นอีกมากมายที่คล้ายกัน
มาทำความรู้จักให้รู้ชัด แยกออก บอกชื่อได้กันเถอะ
ภาพการ์ตูน 4 สีสดใส ทั้งเล่ม
หนังสือ : 1 เล่ม
ชนิดปก : ปกอ่อน
เนื้อใน : 4 สีทั้งเล่ม
วีซีดี : - แผ่น
จำนวน : 80 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 185 x 260 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 285 กรัม
ผู้เขียน : Masae Takaoka
ภาพประกอบ : Taro Tomonaga
ผู้แปล : สมพร ปริยชาติเกษร
ราคาพิเศษ 102 บาท
ราคาปกติ 120 บาท
ประหยัด 18 บาท
ค่าจัดส่งคิดตามน้ำหนักของหนังสือครับ
เนื้อหาภายใน:
สัตว์ทั่วโลกบางพันธุ์มีรูปร่าง สี
หรือลวดลายคล้ายกันจนแทบแยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นพันธุ์
อะไรความจริงแล้วถึงมันจะดูคล้ายกัน แต่สัตว์แต่ละพันธุ์มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
ถ้าเรารู้และสังเกตเห็นก็จะแยกออกได้อย่างง่ายดาย
มาลองสังเกตกันว่ามันเหมือนกันตรงไหน แตกต่างกันตรงไหน
ทั้งๆ
ที่เป็นสัตว์คนละพันธุ์กันแต่ทำไมคล้ายกันรวมทั้งเรื่องน่ารู้อย่างการดำรงชีวิตการเลี้ยงลูก
ความสามารถเฉพาะสายพันธุ์ สาเหตุที่ทำให้มีลักษณะคล้ายกัน
ทุกคนจะได้พบกับคู่สัตว์ที่คล้ายกัน เช่น เสือชีตาห์กับเสือดาว สิงโตทะเลกับแมวน้ำ
นากกับนากทะเล ช้างแอฟริกากับช้างเอเชีย ฯลฯ
พร้อมตื่นตาตื่นใจกับภาพการ์ตูนน่ารัก
สีสันสดใสเห็นลักษณะของสัตว์ต่างๆ อย่างชัดเจน
รีวิวหนังสือ
จากที่ผมได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ เป็นหนังสือที่มีภาพที่สวยงามมีสีสนันสดใส ซึ่งเหมาะกับนักเรียนในวัยปฐมวัย อนุบาล ประถมศึกษา เป็นอย่างยิ่ง ครับ ต้องเรียนว่าจากประสบการณ์ในการสอนที่ผ่านมา สีสันเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถกระตุ้นความสนใจของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ในวัยเริ่มต้นเช่นนี้นะครับ การนำภาพที่เป็นการ์ตูนจะดีกว่านำภาพเสมือนจริงมาแสดงให้พวกเขาดูครับ ที่ผมกล่าวดังนี้ มาจากเหตุผลว่า เด็กในวัยนี้ควรที่จะรับสื่อที่เสริมสร้างจิตนาการ เรายังไม่จำเป็นต้องใส่ความเป็นจริงให้แก่เด็กเสมอไปครับ ภาพสัตว์ที่รูปร่างผิดแปลกไป สีสันที่สดใสกว่าของจริง หรือแม้กระทั่งภาพวาดที่ไร้สภาพความเป็นจริง สิ่งที่เราจะได้รับหากเราใช้ส่อการเรียนแบบนี้ คือ เด็ก จะมีความคิดที่สร้างสรรค์ มีจิตนาการที่กว้างไกล นี้ล่ะครับ คือสิ่งที่เราควรให้เด็กในวัยนี้มี
นอกจากที่ผมยกขึ้นมาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นว่าเป็นจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ คือการสร้างความช่างสังเกตของเด็ก ความช่างสังเกตนี้ล่ะครับ ที่ทำให้เด็กฉลาด ความฉลาดไม่ใช่การอัดแน่นความรู้สารพัด อย่างที่ผู้ปกครองบางท่านเข้าใจนะครับ การเรียนที่เกินขีดจำกัด ไม่ได้ส่งผลดีต่อผู้เรียนเลยครับ นักเรียนของผมหลายคน ที่ผมเห็นได้ชัดและเกิดเป็นข้อเปรียบเทียบ นั้นคือ มีทั้งเด็กที่ผู้ปกครองมุงหวังให้ได้เรียนในโรงเรียน หรือระดับชั้นที่ดี ผมว่าการที่เราปรารถนาดีเหล่านี้ เราอาจจะลืมถามเด็กเหล่านั้นไปว่า ความปรารถนาแท้จริงของเด็กคืออะไรครับ ความปรารถนาของพวกเขาอาจจะไม่ใช่ความฉลาดอย่างที่ผู้ใหญ่คิดครับ ในฐานะที่เป็นครูตลอดเรื่อยมานี้ ผมเห็นว่าความฉลาด ควรเกิดจากการสังเกต ครับ ผมจะยินดีและดีใจที่สุดที่นักเรียนของผมมีความใคร่รู้ ช่างสังเกต และสอบถามในเรื่องที่ใคร่รู้ นี้ล่ะครับ คือจุดดีและเด่นที่สุดของหนังสือเล่มนี้
หนังสือนี้เหมาะกับใคร ?
จะว่าเหมาะกับทุกคน ท่านผู้สนใจก็อาจจะค้อนให้ได้ ^^ ผมเห็นว่าหนังสือเล่มนี้ก็เหมาะกับทุกช่วงวัยล่ะครับ ผู้ใหญ่จะเอาไปอ่าน จะไปสร้างการสังเกตของตนเองก็ใช่ว่าจะมีปํญหาแต่อย่างใด แต่หากที่จะดีและเหมาะสมที่สุด หนังสือเล่มนี้สามารถนำไปสอนในระดับอนุบาลหรือเตรียมอนุบาลได้เลยครับ ผู้สนใจบางท่าน ทำหน้าสงสัย ว่า เอ่..... เด็กขนาดนั้นจะอ่านได้หรือ อ่านไม่ได้หรอกครับ แต่ผู้ปกครองควรเป็นผู้อ่านครับ ถึงจะเหมาะที่สุด อ่านด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร อ่อนหวาน (เพราะเด็ก ๆ จะจดจำและทำตามแบบอย่างของเรา) เมื่ออ่านไป เด็กอาจจะไม่เข้าใจ ไม่เป็นไรครับ เอามาให้เขาได้สังเกต ชี้ไปยังรูปภาพ " นี่น่า.. ลูก เห็นไหม ว่าแตกต่างกันตรงไหน " เด็กจะสนใจครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย คือ การอ่านให้เขาฟังซ้ำ ๆ ครับ ผู้สนใจถามเข้ามาว่า จะดีหรือ อ่านซ้ำไป ซ้ำมา ด้วยประสบการณ์ของผมเอง นักเรียนวัยนี้ชอบให้อ่านซ้ำนะครับ ลูกศิษย์คนเล็กที่สุดของผม อนุบาล 1 ครับ ชอบฟังนิทาน ผมอ่านซ้ำไปซ้ำมา แต่จุดประสงค์จริง ๆ คือ การดูภาพครับ เขาจะชอบดูภาพ เคล็ดลับอีกสิ่ง ผู้ปกครองต้องออกเสียงให้ชัดเจนนะครับ เพราะเด็กเขาจะฟังและจดจำ และพูดตาม ถ้าออกเสียงไม่ชัดเจนล่ะ แย่ เลยทีเดียว ครับ
พูดรีวิวยืดยาวเลย ถ้าท่านใดสนใจหนังสือเล่มนี้ สามารถสั่งซื้อได้ทางเว็บไซท์นะครับ
เนื่องจากลิงค์ที่ผมให้ด้านล่างนี้
จะลิงค์ท่านไปยังหน้าแรกของเว็บจำหน่ายสินค้าครับ
ให้ท่านพิมพ์ตรงช่องค้นหา ใส่รหัสหนังสือ ลงไป ครับ
"P-YOU-561"