เรียนเรื่องเพศ...ในโลกมืด
ตาบอด ไม่ใช่อุปสรรค
การมองไม่เห็น
ไม่ใช่อุปสรรคที่จะเรียนรู้เรื่อง "เพศ" แถมยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
ของเด็กวัยประถมศึกษาที่พิการตาบอดอีกด้วย
เห็นได้จากเด็กพิการตาบอดที่โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านหาดใหญ่)จ.สงขลา
กำลังเรียนวิชาเรื่องเพศศึกษาอย่างตั้งอกตั้งใจ
เรื่องเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เป็นเรื่องที่ต้องถกปัญหาหลายรอบกว่าจะลงตัว
ยิ่งสอนให้กับเด็กวัยรุ่นด้วยแล้ว ยิ่งเป็นประเด็นที่ต้องระวัง
ผิดกับที่โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านหาดใหญ่) เปิดสอนหลักสูตรสอนเพศศึกษามาได้ 5
ปี ผลตอบรับกลับดีเยี่ยมและยังเป็นผลดีกับเด็กๆ อีกด้วย
การันตีได้จาก อ.ชญาทัศน์ เสมสุขกรี
หรือ ครูมดของเด็กๆ บอกว่า เมื่อ 5
ปีที่ผ่านมาได้เข้าอบรมเรื่องการจัดการศึกษาพิเศษด้วยตนเอง จึงนำแผนการสอน
สื่อ
และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนเพศศึกษาของนักเรียนพิการทางสายตามาสอนนักเรียน
พิการตาบอด โดยสอนเด็กประถมศึกษาปีที่ 5-6 อายุระหว่าง 13-15 ปี
"ที่นำเรื่องเพศศึกษามาสอนเด็กตาบอดเพราะว่า
เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัย
และการเรียนรู้ของเด็กตาบอดสามารถเรียนได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป
เพียงแต่พวกเขามองไม่เห็นเท่านั้นเอง"
หลักสูตรที่เด็กพิการ
ตาบอดต้องเรียนนั้นสอนทั้งหมด 6 เรื่อง มีเรื่องพัฒนาการทางเพศ
เกี่ยวกับร่างกายตัวเอง การก้าวเข้าสู่วัยรุ่น, เรื่อง
สัมพันธภาพ เกิด แก่ เจ็บตาย เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อน, เรื่องทักษะส่วนบุคคล การเลือก ความสามารถ, เรื่องพฤติกรรมทางเพศของเราและคนอื่นพฤติกรรมระหว่างกัน
การปฏิเสธ, เรื่องสุขภาพทางเพศ
เป็นเรื่องการเป็นโรค การอนามัย และสังคมและวัฒนธรรมของวัยรุ่น
อ.ชญาทัศน์ บอกว่า
การจัดแผนการเรียนเพศศึกษาจะให้นักเรียนจัดกลุ่มย่อยพูดคุยกัน
และใช้กิจกรรมถามตอบ 20 คำถามเพื่อช่วยฝึกทักษะการฟัง
ทำให้การเรียนของเด็กตาบอดง่ายขึ้น
สำหรับอุปกรณ์การสอนเรื่องเพศศึกษาครูจะนำ
เนื้อหาในหนังสือเรื่องเพศศึกษามาจัดทำเป็นอักษรเบรลเอง โดยนำแผ่นสเลท (Slate) เป็น
แผ่นพลาสติคที่มีรูเล็กๆ จำนวนมาก และสไตลัส (stylus) ปากกาเข็มเพื่อใช้เจาะกระดาษผ่านสเลทในการประดิษฐ์ตัวอักษรเบรล
แต่ละตัว ส่วนการเรียงประโยคจะเรียงตามตัวอักษร แล้วให้สระตามหลัง
บนแนวบรรทัดเดียวกันไปตลอด เช่น คำว่า เพศศึกษา จะเรียงว่า เ พ ศ ศ ก ษา มีหุ่นยางพาราให้เด็กๆ
ได้สัมผัสเรียนรู้สรีระร่างกาย
"เวลาเรียนเรื่องเพศ
ศึกษาสิ่งที่เห็นชัดๆ เด็กตาบอดจะมีความกระตือรือร้นมากกว่าวิชาอื่นๆ
ทำให้พวกเขารู้บทบาทตัวเองว่าต้องทำอะไร
ที่สำคัญพวกเขารู้สึกว่าเรียนตามเพื่อนๆปกติได้ทัน กล้าพูดมากขึ้น"
แม้สิ่งที่สอนจะเป็นผลดี
แต่บางอย่างก็สอนไม่ได้ อ.ชญาทัศน์ บอกว่า เนื้อหาอย่างเรื่องถุงยางอนามัย
อวัยวะเพศ จะไม่กล้าสอนเด็กพิเศษอย่างเด็กออทิสติคตาบอด
เพราะเวลาสอนเรื่องเพศศึกษาอื่นๆ จะให้พวกเขาได้นำไปลองฝึก ลองทำ
และมาบอกให้รู้ว่าเขาทำได้ แต่เรื่องการใช้ถุงยางเป็นสิ่งที่ต้องระวัง
หากเขาไปลองทำผิดๆ ถูกๆ อาจไม่เป็นผลดีกับเด็กได้
อ.ชญาทัศน์ บอกอีกว่า สอนมา 5 ปี
รู้สึกได้ให้พวกเขามากกว่าที่คิด และสิ่งที่ได้กลับมาเป็นสิ่งที่ดีด้วย
"พวกเขาเปิดใจรับฟังกันมากขึ้น
เกิดความไว้วางใจ เด็กที่ขี้อายกล้าพูดมากขึ้น
ได้เรียนรู้เรื่องเพื่อนมากขึ้น เข้าใจว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ
ที่สำคัญได้รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย
เด็กพิเศษมีอารมณ์ความรู้สึกทางเพศเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นเหมือนคนปกติ
แต่ไม่เคยมีใครพูดเคยสอนเขาเรื่องนี้ หลายคนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่
ทำให้เขาไม่รู้จักดูแลตัวเอง พอได้เรียนรู้เรื่องนี้
พวกเขาจะไม่ถูกเอาเปรียบ และรู้จักวิธีป้องกัน
ซึ่งครูต้องอาศัยความละเอียดอ่อน และช่างสังเกตพฤติกรรมเด็ก
เพราะบางคนไม่สามารถพูดหรือบอกเราได้ตรงๆ"
จะโลกมืด
โลกสว่างก็สามารถเรียนเรื่องเพศได้อย่างไม่ปิดกั้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน