วิธีดีๆ กำจัดภาระหนี้สินให้พ้นจากชีวิต

วิธีดีๆ กำจัดภาระหนี้สินให้พ้นจากชีวิต

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น รวมไปจนถึงความไม่มั่นคงในการทำงาน และสาเหตุอื่น ๆ อีกนานับประการ ทำให้เวลานี้ใครหลายคนต้องประสบปัญหาปากท้อง รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย และมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว จนทำให้รู้สึกท้อ แต่ หากมองในมุมกลับกัน แม้ว่าจะมีสาเหตุของการเกิดหนี้สินมากมาย แต่ตัวคุณเองก็สามารถลดภาระหนี้ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน ลองมาดูกันว่าจะทำอย่างไรกันได้บ้าง

ลดการใช้จ่ายเกินความจำเป็น

         แนวทางสำคัญของการลดภาระหนี้สินก็คือ ลดการใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นออกไป เพราะการลดการใช้จ่ายก็เหมือนกับการผ่าตัดการบริหารเงิน และเมื่อคุณฟื้นตัวขึ้นจนสามารถกลับมามี สถานะทางการเงินที่ดีกว่าเก่า บางทีคุณอาจพบว่าทัศนคติของคุณ, ความสัมพันธ์ที่มีกับบุคคลอื่น, อารมณ์และความรู้สึก รวมทั้งอารมณ์ขันของคุณก็จะดีขึ้นด้วย และที่สำคัญโปรด ระลึกไว้ว่าคุณไม่จำต้องเพิ่มภาระหนี้ของคุณให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ "การซื้อด้วยอารมณ์" ถ้าหากคุณทำได้ ก็จะรู้ได้เลยว่า มันจะมีผลกับชีวิตของคุณมากน้อยขนาดไหน

ลดการใช้บัตรเครดิต

         อีกหนึ่งประการสำคัญที่มักจะเป็นสาเหตุให้เกิดภาระหนี้สินก็คือการใช้บัตร เครดิต การใช้บัตรเครดิตที่ดีนั้น ควรใช้บัตรเครดิตเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น โดยมูลค่าบัตร จะต้องมีวงเงินอยู่ในขั้นต่ำที่สุด ที่สำคัญต้องสามารถรูดใช้ได้ไม่เกิน 25% ของรายได้ และแนวทางป้องกันหนี้บัตรเครดิตที่ดีที่สุดก็คือ การเลิกใช้บัตรเครดิต เพราะการมีบัตรเครดิตจะทำให้คุณชะล่าใจ จับจ่ายซื้อของอย่างเกินความจำเป็น ดังนั้นแล้วจึงควรที่จะยกเลิกการใช้บัตรเครดิตกับเรื่องที่ไม่จำเป็น จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองมากกว่า 

         แต่หากคุณยังไม่สามารถเลิกใช้บัตรเครดิตได้ในทันที ก็ควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิต เนื่องจากที่ปรึกษาด้านบัตรเครดิตจะช่วยวางแผนการใช้เงินให้กับคุณ เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ต้องเลือกที่ปรึกษาที่ไว้วางใจได้ และพยายามให้ข้อมูลสำคัญ ๆ กับที่ปรึกษาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

แบ่งเงินเป็นสัดเป็นส่วน

         สิ่งหนึ่งที่สามารถลดการใช้จ่ายที่เกินตัวได้อย่างดีก็คือการใช้เงินอย่าง เป็นสัดส่วน โดยแบ่งเงินเดือนออกเป็นสองส่วนใหญ่ ๆ เช่น เก็บเงิน 60% และไว้ใช้จ่ายอีก 40% วิธีนี้จะทำให้คุณมีเงินเก็บที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ที่สำคัญหากคุณได้รับเงินพิเศษที่นอกเหนือไปจากเงินเดือนที่ได้รับตามปกติ แล้ว ก็ควรนำเอาเงินส่วนนั้นเก็บไว้เป็นทุนฉุกเฉินสำรองเอาไว้ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคุณก็จะได้มีเงินทุนสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น

 ชำระหนี้สิน

         ในส่วนของการชะรำหนี้ที่คุณมี สิ่งหนึ่งที่ควรพึงระลึกเอาไว้เสมอ ๆ ก็คือ ชำระหนี้อย่างพอดี ๆ ควรผ่อนชำระหนี้สินอย่างพอเหมาะ ตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น เพื่อที่จะได้เงินเหลือใช้ทำอย่างอื่นต่อไป นอกจากนั้นแล้วก็ควรไล่ดูหนี้สินที่มีทั้งหมด ตรวจสอบดูว่าคุณมีหนี้สินอะไรบ้าง และแต่ละอย่างต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะได้คำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อย่างลงตัว ทั้งค่าใช้จ่าย เงินเก็บ และเงินชำระหนี้

วางแผนการใช้จ่าย

         ขณะเดียวกันการวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละวันและการจำกัดวงเงินเมื่อออกไป เที่ยวก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถควบคุมการใช้เงินได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะออกไปเที่ยวที่ไหน จะสนุกมากน้อยเพียงใด ก็ต้องใช้จ่ายตามวงเงินที่ได้กำหนดเอาไว้จะดีที่สุด แต่วิธีนี้จะได้ผลมากน้อย ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองที่จะต้องซื่อสัตย์ เลิกนิสัยการขอหยิบยืมเงินคนอื่น รวมถึงฝึกความอดทนอดกลั้นต่อสิ่ง เร้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือของใช้ต่าง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็น ซึ่งหากคุณทำได้ วิธีนี้ก็จะส่งผลดีต่อตัวคุณอย่างมากเลยทีเดียว

เพิ่มรายได้ด้วยงานพิเศษ

         รายได้ที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้คุณสามารถวางแผนจัดการกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวมากขึ้น แถมยังมีเงินเหลือไปชำระหนี้บางส่วนได้อีกด้วย ลองหางานพิเศษที่ไม่หนักหนาจนเกินไปในช่วงนอกเวลางานปกติ หรือลองมองหางานใหม่ที่ให้เงินเดือนมากขึ้น เหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีในการจัดการปัญหาหนี้สินของคุณได้

ออมเงิน

         ประเด็นสุดท้ายที่เราอยากจะฝากทุก ๆ ท่าน ถือเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้กับตัวคุณเองได้มากที่สุด และมีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นก็คือ "การออมเงิน" ไม่ว่าคุณจะมีภาระหนี้สินหรือไม่ หรือจะมีเงินเดือนมากน้อยขนาดไหน การออมเงินทีละเล็กละน้อย ก็จะทำให้คุณได้มีเงินเก็บซึ่งเป็นเงินก้อนขึ้นมาเอง และเงินส่วนนี้เองจะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้จ่ายในอนาคตต่อไปได้ 

         ...วิธีเหล่านี้อาจไม่สามารถ ช่วยปลดหนี้ทั้งหมดได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณมุ่งมั่นและมีวินัยทางการเงิน ปัญหาหนี้สินรอบตัวก็จะเบาบางลงจนหมดไปจากชีวิตอย่างแน่นอน

ขอบคุณที่มา : http://www.zazana.com