อินโดจีน' สงครามประชาชน สงครามอาณานิคม
ภูมิประเทศที่เงียบสงบของจังหวัดลำดง ดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่ง โคชินจีน อาณาจักรเวียดนามโบราณ ปี ค.ศ. 1938 ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิฝรั่งเศส อาณานิคมที่ฝรั่งเศสขนานนามว่าอินโดจีน ซึ่งประกอบด้วยลาวและกัมพูชา ตะวันตก กับดินแดนทางทิศตะวันออกซึ่งประกอบด้วยตังเกี๋ย อันหนัมและโคชินจีน
หลังต่อสู้กับการยึดครองจากจีนมานานหลายร้อยปี และอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสมานานกว่า 50 ปี ขณะนี้คนพื้นเมืองที่ดูเซื่อง ๆ เหล่านี้กำลังรวบรวมกำลังจัดตั้งขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราช โดยใช้พื้นที่ชนบทที่เงียบสงบเป็นฐานที่มั่น หลังจากเกือบ 40 ปีแห่งการต่อสู้อย่างหลังชนฝาความสูญเสียครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น
ปีเตอร์ ทราเฮิร์น นักผจญภัยและนักถ่ายหนังมือสมัครเล่น บันทึกภาพพิเศษเหล่านี้ไว้เมื่อกว่า 70 ปีที่แล้วในรูปของภาพยนตร์ขนาด 16 มิลลิเมตร และไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน
ไซ่ง่อน วันที่ 11 พฤศจิกายน 1938 ครบรอบ 20 ปี วันสงบศึกกองทัพอาณานิคมฝรั่งเศสเดินสวนสนาม เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามครั้งยิ่งใหญ่ แต่ไม่ถึงหนึ่งปีโลกก็เดินหน้าสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่อีกครั้ง เพราะไซ่ง่อนมีสิ่งยั่วยวนของการเป็นอาณานิคมทุกอย่าง
เมื่อชนพื้นเมืองที่ชาวฝรั่งเศสเรียกว่าพวกเลอ มัว ซงวาจ หรือพวกคนป่าเผ่ามัว เริ่ม มีท่าทีกระด้างกระเดื่อง ฝรั่งเศสก็สร้างฟอร์ต ปูปเลก ป้อมรักษาการณ์ในอำเภอกราติเยทางตะวันออกเฉียงใต้ของกัมพูชา ปี ค.ศ. 1938 เพื่อเป็นฐานสอดส่องป้องกัน
ขณะที่มหาอำนาจชาติตะวันตกเชิดชู อุดมการณ์เสรีประชาธิปไตย ขบวนการกู้ชาติกลับมองไปที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในฐานะเครื่องมือสนับสนุนทางอุดมการณ์ โดยเฉพาะแนวทางมาร์ก ซิสต์-เลนินนิสต์ของสหภาพโซเวียต ผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนเป็นชาวเวียดนามวัย 48 ปี ซึ่งลี้ภัยอยู่นอกประเทศ ชื่อ “โฮจิมินห์”
“สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ทันทีที่เกิดสงครามขึ้น พวกจักรวรรดินิยมฝรั่งเศสจะต้องทำให้ประชาชนของเราได้รับความสูญเสียอย่างโหดร้ายทารุณยิ่งขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม การกดขี่ที่ป่าเถื่อนและการขูดรีดอย่างไร้ความปรานีได้ปลุกให้มวลชนผู้รักชาติตื่นขึ้นแล้ว ทุกหนทุกแห่ง มวลชนได้ลุกฮือขึ้นต่อต้านพวกจักรวรรดินิยมฝรั่งเศสแล้ว” โฮจิมินห์กล่าวปราศรัยเนื่องในวาระการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน
เมื่อสงครามเริ่มปะทุฝรั่งเศสเจ้าของอาณานิคมยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนพลผ่านเวียดนามอย่างง่ายดาย ก่อนจะมีส่วนร่วมในการ ปกครอง ระหว่างนั้นโฮจิมินห์และคณะปฏิวัติเล็ก ๆ ของเขาก็ได้จัดตั้งค่ายขึ้นในพื้นที่ห่างไกลตลอดแนวชายแดนระหว่างเวียดนามกับจีน
กองทัพอังกฤษและอเมริกันได้ใช้ยุทธ วิธีการรบนอกตำราในการสู้รบกับญี่ปุ่น พวกเขาได้ติดต่อกับชนพื้นเมืองและจัดตั้งมวลชนเป็นกองกำลังต่อสู้กับญี่ปุ่น รวมทั้งส่งคนจากสำนักงาน บริการยุทธศาสตร์ หรือโอเอสเอส ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเข้าไปสนับสนุนกลุ่มต่อต้านในท้องถิ่น ทั้งที่เป็นชาตินิยมและคอมมิวนิสต์ เพื่อตอบแทนที่ให้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรอง กลุ่มโอเอสเอสรหัสกิโยตินได้สนับสนุนด้านอาวุธและการฝึกแก่กองทัพเวียด มินห์ของโฮจิมินห์
แม้จะให้การสนับสนุนโฮจิมินห์และเห็นด้วยกับการต่อสู้ของขบวนการชาตินิยมเวียดนาม แต่ความแตกแยกเชิงอุดมการณ์หลังสงคราม โลกระหว่างค่ายประชาธิปไตยโลกตะวันตกกับคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียตก็ทำให้รัฐบาลปฏิวัติของโฮจิมินห์ต้องประสบกับความล้มเหลว กองทัพเวียดมินห์แตกกระจัดกระจายเข้าไปอยู่ตามเขตชนบท สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างรวดเร็วและเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่าสงครามอินโดจีนครั้งแรก
17 มกราคม 1951 ในปี ค.ศ. 1951 ชาวเวียดนามนับแสนได้ร่วมกับกองทัพฝรั่งเศสสู้รบกับพวกเวียดมินห์
หลังจากนั้นสหรัฐได้ให้เงินสนับสนุน 80% แก่การทำสงครามของฝรั่งเศส ขณะที่กองทัพเวียดมินห์ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตและรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตุงในประเทศจีน สงครามอินโดจีนไม่ได้เป็นแค่การสู้รบประปรายระหว่างจักรวรรดิยุโรปกับประชาชนภายใต้อาณา นิคมอีกต่อไป หากแต่ได้ขยับขึ้นเป็นสมรภูมิระดับโลก
พฤษภาคม 1953 ฝรั่งเศสแต่งตั้งนายพลคนใหม่มาบัญชาการ ทันทีที่ได้รับแต่งตั้งเขาได้สั่งให้สร้างฐานที่มั่นเพื่อการป้องกัน ขึ้นทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนามใกล้ชายแดนลาว เขาเลือกหมู่บ้านเล็ก ๆ บนเส้นทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีน ลาวและเวียดนามซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของชนเผ่าไต ซึ่งยังคงภักดีกับฝรั่งเศส นี่คือเดียนเบียนฟู แต่นั่นกลับกลายเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะคิดว่าเดียนเบียนฟูปลอดภัยจากการโจมตีของปืนใหญ่และอาวุธหนัก แต่ 55 วันในนรกกำลังจะเริ่มขึ้น ไม่มีทางหนี และไม่มีใครกล้าอุทธรณ์
“พวกเวียดเต็มไปหมด สถานการณ์เลวร้ายมาก ผมรู้สึกว่าจุดจบกำลังจะมาถึงแล้ว”
ชัยชนะที่เดียนเบียนฟูสร้างความปลื้มปีติทั่วทั้งประเทศ ภาพธงปฏิวัติที่ปลิวไสวเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของกองทัพเวียดมินห์สร้างความวิตกแก่ชาติตะวันตกเกี่ยวกับการรุกคืบยึดครองโลกของลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดสงครามเกาหลี
มีการทำข้อตกลงประนีประนอมในการประชุมกรุงเจนีวา โดยลงนามกันในวันที่ 21 กรกฎาคม 1954 มีผลให้เกิดการหยุดยิงในทันที เส้นแบ่งระหว่างกองทัพฝรั่งเศสกับกองทัพเวียดมินห์ถูกกำหนดขึ้นที่เส้นรุ้งที่ 17 การเลือกตั้งเพื่อรวมเวียดนามจะมีขึ้นภายในสองปี เอกราชของลาวและกัมพูชาได้รับการยืนยัน
แม้จะมีการลงนามในข้อตกลงแต่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ ต้องใช้เวลาอีกกว่า 20 ปี สงครามการเผชิญหน้าที่นำไปสู่การสูญเสียชีวิตและความทุกข์ยากเดือดร้อนจึงสิ้นสุดลง
เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันครบรอบของการเกิดมหาสงครามเวียดนาม ร่วมติดตามภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นในสารคดีชุด Indochine ออกอากาศทางช่องดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล อาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคมนี้ เวลา 20.00 น. ทางช่อง ทรู วิชั่นส์ 50.
ขอบคุณที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์