พิธีปั้นเมฆ หรือตามภาพที่ท่านเห็นจากข่าว บางท่านอาจจะไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่าพิธีนี้ ชื่อว่าอะไร เพียงแต่มองไปในมุมมองว่า เป็นประเพณีที่ที่สัปดน หยาบโลน เพราะประเพณีนี้จะสร้างหรือปั้นรูปปั้นจากดินเหนียวเป็นรูปบุรุษและสตรีทำสังวาส หรือร่วมเพศกัน ในหนังสือ “ชีวิตชาวไทยสมัยก่อน” กล่าวไว้ว่า
“...ในชั้นเดิม ข้าพเจ้าไม่ทราบเรื่องปั้นเมฆ ...มีนักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน...นำภาพถ่ายต่าง ๆ ...มีอยู่รูปหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าดูก็สนใจ ... รูปถ่ายแผ่นนั้น เป็นภาพหญิงคนหนึ่งชายคนหนึ่งก่ายกันในท่าทางที่เรียกว่าอนาจารเห็นจะไม่ผิด เป็นรูปปั้นด้วยดินเหนียวติดอยู่กับพื้นดิน...เห็นว่าคงเป็นรูปเกี่ยวกับพิธีความงอกงาม...”
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปประเพณีนี้ก็ดับสูญไป ครูเดชเห็นว่าอาจจะเกิดจากความที่เป็นประเพณีที่ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับเพศแบบเด่นชัด แต่ถึงกระนั้น เมื่อเกิดภัยแล้งอย่างหนักในประเทศไทย จึงเกิดการทำประเพณีนี้ขึ้นมา ซึ่งคนสมัยใหม่ไม่คุ้นชิน เพราะเคยเห็นแต่การแห่นางแมวมากกว่า จึงให้คุณค่าของพิธีกรรมนี้ว่า “หยาบโลน หรือ อนาจาร” ก็ไม่ผิดนัก
พระยาอนุมานราชธนท่านได้แสดงหลักฐานไว้ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็มีการประกอบพิธีปั้นเมฆนี้เช่นเดียวกันในพิธีขอฝน ( ชีวิตชาวไทยสมัยก่อน หน้า 67) ท่านพระยาได้สอบถามจากหลายท่านตามหัวเมืองภาคกลางในสมัยนั้น หลาย ๆ ท่านให้ความตรงกันว่า รูปปั้นด้วยดินเหนียวนี้มีอยู่ทุกจังหวัด บ้างก็มีขนาดเล็ก บ้างก็มีขนาดใหญ่ ทั้งยืน และนอน ปีใดที่ฝนแล้ง ไม่ตกต้องตามฤดู ก็มักจะพบรูปปั้นนี้วางตามข้างทางเดิน และคันนา
กล่าวกันว่า การทำพิธีนี้ด้วยความเชื่อว่า เมื่อทำแล้วฝนจะตกลงมา จะได้ทำไร่ไถนา เป็นพิธีเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์
ครูเดชขอเล่าแบบย่อ ๆ แบบนี้ก่อนล่ะกันน่ะครับ หากท่านใดสนใจ ครูเดชจะนำบทความลงมาให้อ่านกันอีกในเพจ ในตอนที่ 2 จะกล่าวโยงกับหมายรับสั่งในรัชกาลที่ 5 ซึ่งจะทำให้ท่านเห็นถึงวิวัฒนาการของประเพณีปั้นเมฆในรูปแบบของพระราชพิธีหลวงกันครับ ติดตามอ่านกันได้ที่เพจครูเดชนะครับ