Featured post
เรียนภาษาไทย-ติวO-NETสังคม :เคล็ดลับเรียนแล้วรวย
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เคล็ดลับเรียนแล้วรวย
โดย เสรี พงศ์พิศ
www.phongphit.com
www.phongphit.com
ระยะนี้มีข่าว 2 ข่าวเล็กๆ ที่คล้ายกันอย่างน่าสนใจ ข่าวแรกเป็นเรื่องของวอร์เรน บัฟเฟต มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้มีเงินล้านล้านจากการลงทุนในตลาดหุ้น ใครๆ ก็อยากรู้เคล็ดลับความสำเร็จของเขา
เขาบอกระหว่างเข้าร่วมงานเสวนาด้านการศึกษาที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเนบราสกาว่า การลงทุนที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด และได้ผลกำไรมากที่สุด คือ การลงทุนในตัวของคุณเอง เขาหมายความว่า
"การลงทุนเพื่อเปิดโลกทัศน์และแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ทั้งในและนอกห้องเรียน ถือเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดและให้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากที่สุด ผมขอยืนยันว่าไม่มีหุ้นตัวไหนที่น่าช้อนซื้อเก็บเอาไว้ มากไปกว่าหุ้นที่มีชื่อว่า การศึกษาอีกแล้ว และหุ้นตัวที่ชื่อว่าการศึกษานี้ถือเป็นหุ้นแบบปลอดภาษีเพียงตัวเดียวในโลก เพราะเป็นหุ้นที่คุณถือครองตลอดชีพได้โดยไม่ต้องถูกหักภาษี แม้แต่บุคคลที่มีอำนาจมากล้นอย่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังสั่งรีดภาษีหุ้นตัวนี้ไปจากคุณไม่ได้"
ชายผู้มีเงินหลายล้านล้านผู้นี้บอกว่าเคล็ดลับการสร้างความสุขในชีวิตของเขา คือ การใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความพอดี และต้องตัดทิ้งความรู้สึกที่ว่า "อยากรวยมากยิ่งขึ้น" ให้หมดสิ้น เขาบอกว่า
"ในความเป็นจริงแล้ว ผมเชื่อว่ามนุษย์เราต้องการเพียงแค่การมีบ้านที่ดีสักหลังหนึ่ง มีสุขภาพที่ดี มีอาหารที่ดี รวมถึงการมียานพาหนะที่ดีสักคันหนึ่งก็เพียงพอแล้ว อย่างในกรณีของผม ผมก็ต้องการเพียงเท่านี้เช่นกัน ผมขอยืนยันว่าตัวเองไม่เคยมีความคิดที่จะมีบ้านหลังใหญ่สัก 6 หรือ 8 หลัง เพราะมันจะทำให้ชีวิตผมมีความสุขน้อยลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการที่ผมมีบ้านที่ดีเพียงแค่หลังเดียว" เขาบอกด้วยว่า การมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มิได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะต้องใช้จ่ายให้มาก เพื่อให้สมกับฐานะทางเศรษฐกิจของตน พร้อมยืนยัน "เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้" แล้วเขาก็ทำตามปรัชญาชีวิตของเขาโดยมอบเงินเกือบทั้งหมด ทั้งหลายล้านล้านเพื่อการกุศล
ข่าวที่ 2 เป็นเรื่องการจัดสัมมนาหรือฝึกอบรมระยะสั้นๆ ที่ฮิตกันมาก จัดกันประมาณ 2 วัน ประเภท "เรียนแล้วรวย" ส่วนใหญ่จัดกันในประเทศเพื่อนบ้าน สนนราคาก็ครึ่งแสนถึงแสน อ้างว่าเป็นกูรูด้านโน้นด้านนี้ที่สามารถเสกให้คุณรู้เคล็ดลับการทำงานแล้วรวยเร็วได้
ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง การแข่งขันกันสูง ใครๆ ก็อยากรู้เคล็ดลับกันทั้งนั้น ถ้าลงทุนแสนเดียวแล้วทำงานได้หลายแสนหลายล้านก็น่าจะคุ้ม เพราะนายบัฟเฟตก็ยืนยันแล้วว่า คุณต้องลงทุนการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
แต่อ้างคุณบัฟเฟตอาจไม่ถูกที่ถูกทางแบบเข้าข้างตัวเอง เพราะเขาไม่เคยพูดเรื่องการลงทุนแบบรวยเร็วรวยลัดอะไรเลย แม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้นคุณบัฟเฟตก็ลงทุนระยะกลางระยะยาวทั้งนั้น ไม่ใช่เล่นกันระยะสั้นแบบแทงหวยรวยเช้าบ่ายอย่างหลายคนในบ้านเรา
ที่สำคัญ วันนี้มีคนที่อ้างตนเป็นกูรูกันมากมาย อ้างผลงานหนังสือที่อาจเขียนแบบสั่งพิมพ์ได้เองตามจำนวนที่ต้องการเป็นครั้งๆ ที่อาจไปลอกใครเขามา ตัดแปะอย่างแนบเนียน หลอกคนที่ไม่ค่อยค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง เช่นเดียวกับการจัดอบรมสัมมนาที่อาจดูดีมีหลักการ แต่ที่จริงคนที่เป็นวิทยากรก็ไปรับการอบรมจากกูรูตัวจริงมาก่อน นำรูปแบบวิธีการมาลอกเลียนทำซ้ำ ซึ่งทำอย่างไรคนที่ไปก็อปปี้เขามาก็ไม่ลึกซึ้งเหมือนกับผู้รู้กูรูตัวจริงที่ผ่านประสบการณ์มายาวนานและตกผลึกมาแล้ว
คนรุ่นใหม่ฝันอยากรวยเร็วรวยลัด ไม่อยากให้ผ่านวัย 30 หรือ 40 ไปโดยยังไม่เป็นเศรษฐี ฝันอยากเป็นหนึ่งในบรรดามหาเศรษฐีที่อายุยังไม่ถึง 40 ในบัญชีของฟอร์บส์ หนังสือฮาวทูมีเท่าไรซื้อมาอ่าน การอบรมสัมมนาแบบเรียนแล้วรวยก็ไม่อยากพลาด เป็นความทุกข์ของความไม่ลงตัว ไม่รู้จักพอ
ความจริง คนเราควรต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะการเรียนรู้เป็นการค้นหาพลังอย่างใหม่มาขับเคลื่อนชีวิต ของเก่าๆ อันเดิมๆ ไม่สามารถทำให้เราปรับตัวเข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ได้ ถ้าไม่หมั่นแสวงหาความรู้ก็จะตกยุคตกสมัย ไม่ทันกิน ไม่ทันโลก
นักศึกษาใน "มหาวิทยาลัยชีวิต" อายุเฉลี่ย 41 ปี มีตั้งแต่ 20 เศษไปจนถึง 85 ปี พวกเขาเรียนรู้โดยเอาชีวิตของตนเองมาเรียน เอาเรื่องของชุมชนมาเรียน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาและพัฒนาตนเอง
ไปกาฬสินธุ์วันก่อน ไปร่วมเสวนาเรื่องการปฏิรูปการศึกษาในเวทีประชาสังคม เครือข่ายพลเมืองที่เข้มแข็งของจังหวัดแห่งนี้ ได้พบศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยชีวิตสิบกว่าคนที่เป็นผู้นำชุมชนในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ที่พวกเขาได้รับหลังจากเรียนจบปริญญาตรี ทั้งหญิงทั้งชายในวัยกลางคน
ศิษย์เก่าสาวใหญ่วัยห้าสิบคนหนึ่งบอกพร้อมน้ำตาว่า เธอไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่เรียนจบปริญญาตรี เพราะก่อนนี้เป็นแม่บ้าน ชาวนา วันนี้เธอเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เป็นประธานกลุ่มสตรีที่อำเภอเขาวง มีรีสอร์ทของตนเอง สาวผู้ไทวัยกลางคนอีกคนหนึ่งบอกว่าเธอเคยทำงานสาธารณสุข แต่เรียนแล้วก็กลับไปทำนาเพื่อพิสูจน์ว่า เรียนแล้วอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและมีกินในท้องถิ่นตนได้อย่างที่ มหาวิทยาลัยชีวิตสอน
ส่วนคุณอุทัย แก้วกล้า ประธานสภาอบจ.กาฬสินธุ์ก็เป็นศิษย์เก่าที่เรียนแล้วได้กลายเป็นผู้นำในระดับจังหวัด เช่นเดียวกับนายกอบต. นายกเทศมนตรี และผู้นำท้องถิ่นอีกหลายคน
ผมได้สรุปในที่ประชุมว่า บุคคลเหล่านี้ได้สิ่งที่สำคัญที่สุดจากการเรียนในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต คือ วิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง และได้ความเชื่อมั่นที่หายไปกลับคืนมา เรียนแล้วพวกเขาเป็นตัวของตัวเอง คิดได้เอง ตัดสินใจได้เอง เลือกได้เอง พึ่งตนเองได้และมีความสุข นี่กระมังที่คุณบัฟเฟตบอกว่า เป็นอะไรที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ถ้าคุณลงทุนเป็น คุณก็จะได้อย่างคุ้มค่า
เขาบอกระหว่างเข้าร่วมงานเสวนาด้านการศึกษาที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเนบราสกาว่า การลงทุนที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด และได้ผลกำไรมากที่สุด คือ การลงทุนในตัวของคุณเอง เขาหมายความว่า
"การลงทุนเพื่อเปิดโลกทัศน์และแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ทั้งในและนอกห้องเรียน ถือเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดและให้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากที่สุด ผมขอยืนยันว่าไม่มีหุ้นตัวไหนที่น่าช้อนซื้อเก็บเอาไว้ มากไปกว่าหุ้นที่มีชื่อว่า การศึกษาอีกแล้ว และหุ้นตัวที่ชื่อว่าการศึกษานี้ถือเป็นหุ้นแบบปลอดภาษีเพียงตัวเดียวในโลก เพราะเป็นหุ้นที่คุณถือครองตลอดชีพได้โดยไม่ต้องถูกหักภาษี แม้แต่บุคคลที่มีอำนาจมากล้นอย่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังสั่งรีดภาษีหุ้นตัวนี้ไปจากคุณไม่ได้"
ชายผู้มีเงินหลายล้านล้านผู้นี้บอกว่าเคล็ดลับการสร้างความสุขในชีวิตของเขา คือ การใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความพอดี และต้องตัดทิ้งความรู้สึกที่ว่า "อยากรวยมากยิ่งขึ้น" ให้หมดสิ้น เขาบอกว่า
"ในความเป็นจริงแล้ว ผมเชื่อว่ามนุษย์เราต้องการเพียงแค่การมีบ้านที่ดีสักหลังหนึ่ง มีสุขภาพที่ดี มีอาหารที่ดี รวมถึงการมียานพาหนะที่ดีสักคันหนึ่งก็เพียงพอแล้ว อย่างในกรณีของผม ผมก็ต้องการเพียงเท่านี้เช่นกัน ผมขอยืนยันว่าตัวเองไม่เคยมีความคิดที่จะมีบ้านหลังใหญ่สัก 6 หรือ 8 หลัง เพราะมันจะทำให้ชีวิตผมมีความสุขน้อยลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการที่ผมมีบ้านที่ดีเพียงแค่หลังเดียว" เขาบอกด้วยว่า การมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มิได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะต้องใช้จ่ายให้มาก เพื่อให้สมกับฐานะทางเศรษฐกิจของตน พร้อมยืนยัน "เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้" แล้วเขาก็ทำตามปรัชญาชีวิตของเขาโดยมอบเงินเกือบทั้งหมด ทั้งหลายล้านล้านเพื่อการกุศล
ข่าวที่ 2 เป็นเรื่องการจัดสัมมนาหรือฝึกอบรมระยะสั้นๆ ที่ฮิตกันมาก จัดกันประมาณ 2 วัน ประเภท "เรียนแล้วรวย" ส่วนใหญ่จัดกันในประเทศเพื่อนบ้าน สนนราคาก็ครึ่งแสนถึงแสน อ้างว่าเป็นกูรูด้านโน้นด้านนี้ที่สามารถเสกให้คุณรู้เคล็ดลับการทำงานแล้วรวยเร็วได้
ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง การแข่งขันกันสูง ใครๆ ก็อยากรู้เคล็ดลับกันทั้งนั้น ถ้าลงทุนแสนเดียวแล้วทำงานได้หลายแสนหลายล้านก็น่าจะคุ้ม เพราะนายบัฟเฟตก็ยืนยันแล้วว่า คุณต้องลงทุนการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
แต่อ้างคุณบัฟเฟตอาจไม่ถูกที่ถูกทางแบบเข้าข้างตัวเอง เพราะเขาไม่เคยพูดเรื่องการลงทุนแบบรวยเร็วรวยลัดอะไรเลย แม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้นคุณบัฟเฟตก็ลงทุนระยะกลางระยะยาวทั้งนั้น ไม่ใช่เล่นกันระยะสั้นแบบแทงหวยรวยเช้าบ่ายอย่างหลายคนในบ้านเรา
ที่สำคัญ วันนี้มีคนที่อ้างตนเป็นกูรูกันมากมาย อ้างผลงานหนังสือที่อาจเขียนแบบสั่งพิมพ์ได้เองตามจำนวนที่ต้องการเป็นครั้งๆ ที่อาจไปลอกใครเขามา ตัดแปะอย่างแนบเนียน หลอกคนที่ไม่ค่อยค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง เช่นเดียวกับการจัดอบรมสัมมนาที่อาจดูดีมีหลักการ แต่ที่จริงคนที่เป็นวิทยากรก็ไปรับการอบรมจากกูรูตัวจริงมาก่อน นำรูปแบบวิธีการมาลอกเลียนทำซ้ำ ซึ่งทำอย่างไรคนที่ไปก็อปปี้เขามาก็ไม่ลึกซึ้งเหมือนกับผู้รู้กูรูตัวจริงที่ผ่านประสบการณ์มายาวนานและตกผลึกมาแล้ว
คนรุ่นใหม่ฝันอยากรวยเร็วรวยลัด ไม่อยากให้ผ่านวัย 30 หรือ 40 ไปโดยยังไม่เป็นเศรษฐี ฝันอยากเป็นหนึ่งในบรรดามหาเศรษฐีที่อายุยังไม่ถึง 40 ในบัญชีของฟอร์บส์ หนังสือฮาวทูมีเท่าไรซื้อมาอ่าน การอบรมสัมมนาแบบเรียนแล้วรวยก็ไม่อยากพลาด เป็นความทุกข์ของความไม่ลงตัว ไม่รู้จักพอ
ความจริง คนเราควรต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะการเรียนรู้เป็นการค้นหาพลังอย่างใหม่มาขับเคลื่อนชีวิต ของเก่าๆ อันเดิมๆ ไม่สามารถทำให้เราปรับตัวเข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ได้ ถ้าไม่หมั่นแสวงหาความรู้ก็จะตกยุคตกสมัย ไม่ทันกิน ไม่ทันโลก
นักศึกษาใน "มหาวิทยาลัยชีวิต" อายุเฉลี่ย 41 ปี มีตั้งแต่ 20 เศษไปจนถึง 85 ปี พวกเขาเรียนรู้โดยเอาชีวิตของตนเองมาเรียน เอาเรื่องของชุมชนมาเรียน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาและพัฒนาตนเอง
ไปกาฬสินธุ์วันก่อน ไปร่วมเสวนาเรื่องการปฏิรูปการศึกษาในเวทีประชาสังคม เครือข่ายพลเมืองที่เข้มแข็งของจังหวัดแห่งนี้ ได้พบศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยชีวิตสิบกว่าคนที่เป็นผู้นำชุมชนในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ที่พวกเขาได้รับหลังจากเรียนจบปริญญาตรี ทั้งหญิงทั้งชายในวัยกลางคน
ศิษย์เก่าสาวใหญ่วัยห้าสิบคนหนึ่งบอกพร้อมน้ำตาว่า เธอไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่เรียนจบปริญญาตรี เพราะก่อนนี้เป็นแม่บ้าน ชาวนา วันนี้เธอเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เป็นประธานกลุ่มสตรีที่อำเภอเขาวง มีรีสอร์ทของตนเอง สาวผู้ไทวัยกลางคนอีกคนหนึ่งบอกว่าเธอเคยทำงานสาธารณสุข แต่เรียนแล้วก็กลับไปทำนาเพื่อพิสูจน์ว่า เรียนแล้วอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและมีกินในท้องถิ่นตนได้อย่างที่ มหาวิทยาลัยชีวิตสอน
ส่วนคุณอุทัย แก้วกล้า ประธานสภาอบจ.กาฬสินธุ์ก็เป็นศิษย์เก่าที่เรียนแล้วได้กลายเป็นผู้นำในระดับจังหวัด เช่นเดียวกับนายกอบต. นายกเทศมนตรี และผู้นำท้องถิ่นอีกหลายคน
ผมได้สรุปในที่ประชุมว่า บุคคลเหล่านี้ได้สิ่งที่สำคัญที่สุดจากการเรียนในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต คือ วิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง และได้ความเชื่อมั่นที่หายไปกลับคืนมา เรียนแล้วพวกเขาเป็นตัวของตัวเอง คิดได้เอง ตัดสินใจได้เอง เลือกได้เอง พึ่งตนเองได้และมีความสุข นี่กระมังที่คุณบัฟเฟตบอกว่า เป็นอะไรที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ถ้าคุณลงทุนเป็น คุณก็จะได้อย่างคุ้มค่า
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้
ดาวน์โหลด"มานะมานี" แจกไฟล์ตำราเรียนฟรี
ดาวน์โหลด"มานะมานี" แจกไฟล์ตำราเรียนฟรี สวัสดีครับทุกท่าน ปัญหาการอ่านเขียนไม่คล่องของเด็กและเยาวชนของเรานับวันยิ่งมีปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น เรื่อย ๆ จนน่ากลัว การแก้ไขปัญหาภาษาไทยนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ของหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการศึกษาเสียแล้วครับ เมื่อหลายท่าน ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ มีความเห็นตรงกันว่า จะปล่อยปะละเลยต่อปัญหานี้ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดี วันนี้ ครูเดชจึงได้นำไฟล์ตำราเรียน ที่แสนจะวิเศษ และผมเองกล้าการันตรีว่า หากนักเรียน หรือ ผู้ที่มีปัญหาภาษาไทย ได้ตั้งใจอ่าน ตั้งใจทำความเข้าใจ จะสามารถพัฒนาภาษาไทยไปได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ "มานะ มานี" นอกจากจะเป็นตำราภาษาไทย ที่คนที่มีอายุหลายท่านได้สัมผัสเรียนรู้ในวิชาภาษาไทยมาแล้ว ท่านจะทราบว่าตำราเรียนเล่มนี้ ไม่ได้มีแต่ความรู้ภาษาไทย อย่างเดียวไม่ หากแต่มีความน่าสนุก น่าสนใจ และความตื้นเต้น กลวิธีนี้เองล่ะครับ ที่ผมเห็นว่า เป็นอุบายล่อให้เด็กสนใจตำราเรียนได้เป็นอย่างดี ความสนุก ความเพลิดเพลิน เมื่อนักเรียนอ่านจบเล่ม ตัวละครก็จบชั้นเดียวกัน เมื่อเลื่อนชั้น นักเรี
แจกฟรีแบบฝึกหัดภาษาไทยมานะมานี ป.1
แจกฟรี แบบฝึกหัดภาษาไทยใช่ควบคู่กับตำรามานะมานี ป. 1 คลิกที่ลิงก์เพื่อดาวน์โหลดครับ แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 1-5 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 6-10 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 11-15 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 16-20 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 21-25 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 26-30 แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 31-35 อยู่ในขณะจัดทำ แบบฝึกหัด มานะมานีบทที่ 36-40 อยู่ในขณะจัดทำ เรียนออนไลน์ เรียนภาษาไทยออนไลน์ เรียนอ่านเขียนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยที่ออสเตรเลีย หาครูสอนภาษาไทยที่ญี่ปุ่น หาครูสอนภาษาไทยที่เวียดนาม หาครูสอนภาษาไทยที่อเมริกา หาครูสอนภาษาไทยที่เยอรมัน หาครูสอนภาษาไทยที่ฝรั่งเศส Learn Thai with native speakers. หาครูสอนภาษาไทยอ่านเขียน สอนอ่านหนังสือภาษาไทย สอนอ่านเขียน ลูกอ่านภาษาไทยไม่ออก หาครูแก้ไขภาษาไทย สถาบันสอนภาษาไทย โรงเรียนสอนภาษาไทย หาครูสอนภาษาไทยนานาชาติ หาครูสอนภาษาไทยลูกครึ่ง หาครูสอนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนพิเศษ ห
กทม. 6 โซน : เพื่อวางแผนเส้นทางการสอนสำหรับติวเตอร์
ให้ติวเตอร์ใช้เขตพื้นที่เหล่านี้ เพื่อระบุพื้นที่ที่ท่านสามารถเดินทางไปสอนได้สะดวกครับ ศูนย์จะแจ้งงานให้ท่านทราบตามพื้นที่การเดินทางที่ท่านสะดวกครับ โปรดแจ้งตามความสะดวกจริง เพื่อความรวดเร็วในการรับงานสอนนะครับ 1.กลุ่มกรุงเทพกลาง ประกอบด้วย เขตพระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี และวังทองหลาง 2.กลุ่มกรุงเทพใต้ ประกอบด้วย เขตปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย วัฒนา พระโขนง สวนหลวง และบางนา 3. กลุ่มกรุงเทพเหนือ ประกอบด้วย เขตจตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม และบางเขน 4.กลุ่มกรุงเทพตะวันออก ประกอบด้วย เขตบางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวาและประเวศ 5.กลุ่มกรุงธนเหนือ ประกอบด้วย เขตธนบุรี คลองสาน จอมทอง บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย บางพลัด ตลิ่งชันและทวีวัฒนา 6.กลุ่มกรุงธนใต้ ประกอบด้วย เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม บางขุนเทียน บางบอน ราษฎร์บูรณะและทุ่งครุ เรียนออนไลน์ เรียนภาษาไทยออนไลน์ เรียนอ่านเขียนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยออนไลน์ หาครูสอนภาษาไทยท