สารพัดปัญหากวนใจพ่อแม่ผู้ปกครอง ยิ่งจะหนักใจใหญ่ถ้าบุตรหลานอ่านเขียนภาษาไทยไม่คล่อง
ปัญหานักเรียนชั้นประถมศึกษา ที่อ่านไม่คล่อง เขียนไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น หากแต่เกิดมานานและ
สะสมปัญหามาโดยตลอด จากประสบการณ์ของครูเดช
ปัญหาเกิดจากปัญหาพื้นฐานส่วนตัวของนักเรียน และปัญหาแรกคือ นักเรียนมีพื้นฐานที่น้อย เกิดได้จากหลายปัจจัย
เช่น ส่วนตัวของเด็กเองที่ไม่ตั้งใจเรียน ไม่สนใจ เด็กมีปัญหาในการเรียนรู้ อีกปัญหาหนึ่งที่ส่งผลต่อเด็กมาก คือ
การสอนที่ข้ามหลักการทางภาษา
โดยปกติแล้วการเรียนภาษาไทยควรที่จะเริ่มต้นการเรียนรู้จากการนำพยัญชนะมาประสมสระแล้วอ่านออกเสียง
แล้วจึงนำมาผันวรรณยุกต์ ต่อด้วยการนำตัวสะกดมาประสม ขั้นตอนสุดท้ายถึงให้เด็กใช้วิธีจดจำคำศัพท์
ในบางครั้งการสอนที่ข้ามขั้นก็นำมาสู่การที่เด็กอ่านไม่คล่องได้เช่นกันครับ
ปัญหาที่สอง ซึ่งเป็นปัญหาภายใน เราจะตัดปัญหาในส่วนของเด็กมีการบกพร่องทางการเรียนรู้ การเรียนรู้ช้า
และเหตุทางจิตวิทยาออกไป นั้นก็คือ ปัญหาการขาดความมั่นใจในการอ่านและเขียน ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เกิดจาก
การที่เด็กถูกผู้ปกครอง ครู เพื่อน คนที่อยู่รอบ ตีตราว่า โง่ ไม่เก่ง อ่อน ไม่ฉลาด เขลา
เมื่อเด็กถูกตีตราเช่นนี้บ่อย ๆ เด็กจะแสดงอาการออกมา ทั้งคล้อยตาม คือ หนูไม่เก่ง หนูเลยไม่อยากเรียน
ไม่อยากอ่าน หรือขาดความมั่นใจ ถ้าใครบังคับอ่าน ก็จะอ่านเสียงเบา หรือเขียนก็จะช้า
เพราะกังวลว่าตนเองจะเขียนผิด พอเขียนผิดก็จะถูกคนว่า และเด็กบางส่วนจะมีอาการต่อต้านทันที
เมื่อรู้ว่าตนเองถูกตีตรา เด็กจะไม่พอใจ โกรธ ต่อสู้ และแสดงออกด้วยความเกลียด เคียดแค้น รังเกียจ
และไม่เอาภาษาไทยอีกเลย
ปัญหาอย่างหลังนี้ เป็นปัญหาที่ค่อนข้างแก้ไขได้ยาก แต่ครูเดชก็เคยพบกรณีเช่นนี้
และทำให้เด็กอ่านเขียนคล่องได้ดีพอสมควร
ปัญหาการอ่านเขียนไทยไม่คล่อง มีความลึกซึ้งมากกว่าที่ผู้ใหญ่อย่างเราคิดเลยละครับ
เพราะมันไม่ใช่แค่เด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้
แต่เราต้องแกะปมในใจของเด็กหรือปัญหาของเด็กให้ได้
แม้ว่าครูเดชจะไม่ได้จบการศึกษาในสาขาภาษาไทยโดยตรง แต่ด้วยประสบการณ์ กว่า 10 ปี ที่ทำงานด้านนี้มา
การได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง การได้เข้าอบรมทางด้านภาษาไทย และจิตวิทยาเด็ก
ครูเดชมั่นใจว่าจะสามารถคลายปัญหาและความทุกข์ของท่านได้
แต่ทั้งนี้ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของท่านในการกวดขัน ให้กำลังใจแก่เด็ก ๆ ด้วยครับ